เธอใช้สำลีชุบน้ำยาบ้วนปากเช็ดรักแร้ ผลลัพธ์ที่ได้น่าประหลาดใจจนคุณต้องอ้าปากค้าง

loading...


เธอใช้สำลีชุบน้ำยาบ้วนปากเช็ดรักแร้ ผลลัพธ์ที่ได้น่าประหลาดใจจนคุณต้องอ้าปากค้าง

บ้านคุณมีกล่องยาสามัญประจำบ้านไหม? แม้ว่ามีแล้วจะสะดวกดี แต่ทุกปีต้องมาคอยเปลี่ยนยาที่หมดอายุก็เป็นเรื่องที่น่ารำคาญ จริงๆแล้วมีหลายๆอย่างที่สามารถใช้น้ำยาบ้วนปาก Listerine แก้ปัญหาแทนได้! ถ้าใช้แค่บ้วนปาก ก็น่าเสียดายเกินไปแล้ว!


น้ำยาบ้วนปาก Listerine เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1987 ตอนแรกใช้เพื่อฆ่าเชื้อในการผ่าตัด ตอนหลังมาถึงได้ใช้เป็นน้ำยาบ้วนปาก เนื่องจากมันมีส่วนผสมที่ช่วยรักษาอาการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ แต่ไม่เพียงแค่นั้น มันยังมีประโยชน์อีกนับ 10 อย่าง:

1. กำจัดกลิ่นรักแร้: แค่เทน้ำยาบ้วนปากลงบนสำลี เช็ดเบาๆใต้วงแขน ได้ผลลัพธ์ดีกว่าโรลออนดับกลิ่นทั้งหลายมากมาย

2. รักษาโรคเหน็บชา (beriberi): เพียงแค่แช่เท้าในน้ำยาบ้วนปากวันละครึ่งชั่วโมงทุกวัน จะสามารถช่วยรักษาอาการเหน็บชาได้ และสามารถเติมน้ำส้มสายชูลงไปด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ดีกว่าเดิม

3. ทำความสะอาดห้องน้ำ: เทมันลงในชักโครกเพื่อทำความสะอาด สามารถช่วยขจัดกลิ่นเหม็น ทำให้ชักโครกของคุณดูเหมือนใหม่อีกครั้ง

4. ทำความสะอาดแผล: ถ้าได้รับแผลบาดเจ็บโดยไม่ระวัง สามารถเทน้ำยาบ้วนปากลงบนสำลี แล้วใช้เช็ดปากแผลได้ สามารถช่วยฆ่าเชื้อโรค

5. กำจัดรังแค: หมักผมด้วยน้ำยาบ้วนปาก โดยให้สัมผัสกับหนังศีรษะ ใช้ผ้าขนหนูพันไว้ จะได้ผลดีที่คุณคาดไม่ถึง

6. กำจัดเห็บ (flea): แค่ใช้น้ำยาบ้วนปากอาบน้ำให้สุนัข หรือฉีดไปบนตัวมัน ได้ผลลัพธ์ดีกว่าผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหลายเท่าตัว

7. ใช้เช็ดหน้า: ใช้เช็ดหน้าเช้าเย็น สามารถช่วยลดการเกิดสิว หรือรักษาอาการสิวได้

8. ใช้แช่แปรงสีฟัน: บนแปรงสีฟันมีแบคทีเรียตกค้างอยู่มากมาย การแช่แปรงสีฟันในน้ำยาบ้วนปากจะช่วยกำจัดแบคทีเรียได้

9. ใช้เช็ดหน้าจอคอมพิวเตอร์: น้ำยาบ้วนปากมีประสิทธิภาพในการลบรอยนิ้วมือและคราบ ทำให้สิ่งสกปรกไม่สามารถเกาะติดได้ง่าย

10. กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์: เพียงแค่เทน้ำยาบ้วนปากเพียงเล็กน้อยลงบนกระดาษทิชชู แล้วใส่ไว้ในถังขยะ ก็สามารถทำให้กลิ่นแปลกๆหายไปได้

น้ำยาบ้วนปาก Listerine มีส่วนผสมที่ช่วยในการกำจัดแบคทีเรีย หลังจากนี้นอกจากใช้บ้วนปากแล้ว ยังสามารถลองเอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีก! ทั้งสามารถประหยัดเงิน และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ไม่เลวป่ะ!


ที่มา:http://www.share-si.com/2016/07/blog-post_90.html
Powered by Blogger.