สาวช็อก!! กลับมาเจอลูกชายวัยเดือนเศษดับคาบ้าน ผัวบอกลูกคนโต2ขวบฆ่าน้อง


loading...
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ร.ต.อ.นิติพัฒน์ เหมะกุลเศรษฐ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดศรีมโหสถว่า มีเด็กชายวัยเดือนเศษเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเช่า หมู่ที่ 5 ต.โคกไทย อ.ศรีมโหสถ และขณะนี้ทางญาติได้ให้หน่วยกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลศรีมโหสถ หลังจากรับแจ้ง ร้อยเวรจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลศรีมโหสถ พบเด็กชายบุญทิ้ง อายุ 45 วัน เสียชีวิต

 จากการตรวจสอบสภาพร่างกายพบว่า ที่บริเวณหน้าผากด้านซ้ายมีรอยเขียวช้ำ ที่บริเวณแก้มทั้ง 2 ข้าง ปาก คอ และจมูก มีรอยเขียวช้ำอย่างหนัก และยังมีรอยเล็บที่บริเวณคอด้านซ้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ จึงให้ทางหน่วยกู้ภัยนำศพเด็กน้อยส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด



 จากการสอบสวน น.ส.ลักขณา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี มารดา ได้ให้การว่า ตนเองได้อยู่กินกับนายจิรภัทร อายุ 21 ปี มีบุตรด้วยกัน คือ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ และ ด.ช.บุญทิ้ง ที่เสียชีวิต และในวันนี้ ตนได้ออกทำงานเป็นวันแรก หลังจากลาคลอดบุตร ที่ปั๊มน้ำมันเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยปล่อยให้นายจิรภัทร สามีเป็นผู้ดูแลบุตรชายทั้ง 2 คน

 จนกระทั่งช่วงบ่าย นายจิรภัทรได้โทรศัพท์แจ้งว่า ขณะที่สามีเข้าห้องน้ำและออกมาพบว่า ลูกชายคนโตเอาหมอนกดทับที่ใบหน้าน้องชาย จนทำให้เสียชีวิต ตนเองจึงได้รีบเดินทางกลับมาดู พร้อมติดต่อหน่วยกู้ภัยให้รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต



 ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การว่า ด.ช.ธนิต จะใช้หมอนกดเข้าที่บริเวณใบหน้าน้องชาย จนทำให้น้องชายเสียชีวิต ซึ่งอาจมาจากฝีมือผู้ใหญ่ เนื่องจากสภาพศพมีรอยเขียวช้ำ คล้ายถูกกระทำ ทางพนักงานสอบสวนได้นัดให้นายจิรภัทรมาพบพนักงานสอบสวนในช่วงเย็น เพื่อทำการสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องของการเสียชีวิตของลูกชายตนเองหรือไม่ นอกจากนั้นนายจิรภัทรยังมีประวัติในการเสพยา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 ขณะที่ พี่สาวของนายจิรภัทร  อายุ 27 ปี อยู่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวกับผู้สื่อข่าวและหน่วยกู้ภัยว่า การเสียชีวิตของหลานเชื่อว่าน่าจะมาจากน้องชายตนเอง โดยคนในครอบครัวก็เชื่อว่าน้องชายตนเองเป็นผู้กระทำ

ที่มา:http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468672358
Powered by Blogger.