Showing posts with label ข่าวต่างประเทศ. Show all posts
Showing posts with label ข่าวต่างประเทศ. Show all posts

มาราวียังเดือดหนัก!! เหตุยึดเมืองฟิลิปปินส์ ยังคงโจมตีอย่างหนัก พลเรือนดับอีก 19 นาย จนยอดผู้ตายพุ่งถึง 85 ศพ (รายละเอียด)


จากกรณีที่กองทัพฟิลิปปินส์ เดินหน้าโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธยึดเมืองมาราวี ยอมรับ โดยมีนักรบต่างชาติเกี่ยวข้องไอซิส ตายแล้ว 6  ในขณะที่ประธานาธิบดีดูเตร์เต ชี้ไอซิสหวังยึดเกาะมินดาเนา ใช้เป็นฐานในอาเซียน เมื่อล่าสุดวันที่ 28พ.ค. ได้มีการรายงานความคืบหน้าของการสู้รบกันระหว่างกองทัพรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธที่ประกาศสวามิภักดิ์กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส หลังบุกยึดเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา


โดยจากเหตุปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธในเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 19 ราย ขณะที่กองทัพประกาศจะทิ้งระเบิดโจมตีให้หนักขึ้น

ได้มีการรายงานเข้ามาว่า กองทัพของประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยต่อสื่อในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ว่า เหตุปะทะตามท้องถิ่นในเมืองมาราวีซึ่งถูกกองกำลังติดอาวุธยึดครองตามพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอีก 19 รายแล้ว ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเหตุความรุนแรงในเมืองบนเกาะมินดาเนาแห่งนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 85 รายแล้ว


โดยทางด้าน พันโท โฮ-อาร์ เอร์เรรา โฆษกกองทัพท้องถิ่นระบุว่า พลเรือนที่เสียชีวิตทั้ง 19 รายประกอบด้วยผู้ชาย 15 คน ผู้หญิง 4 คน และเด็กอีก 1 คน ศพของพวกเขาถูกพบใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองมาราวี ขณะที่ชายบ้านท้องถิ่นบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ผู้ตายส่วนหนึ่งเป็นลูกจ้างของโรงสีข้าวแห่งหนึ่ง อีกส่วนเป็นนักศึกษาแพทย์


ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงในเมืองมาราวีเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มมือปืนนับร้อยคนออกอาละวาดภายในเมือง หลังกองกำลังความมั่นคงฟิลิปปินส์นำกำลังเข้ามาปฏิบัติการจับกุมตัวนายอิสนิยง อาปิยง นักรบติดอาวุธชาวฟิลิปปินส์ผู้ถูกระบุว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ในแดนตากาล็อก



โดยในเบื้องต้นกลุ่มมือปืนประดับธงสีดำของไอซิสไว้หลายจุดทั่วเมือง รวมทั้งจับตัวบาทหลวง 1 รูป และชาวคริสต์ 14 คน จากโบสถ์แห่งหนึ่งเป็นตัวประกัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทราบชะตากรรมของพวกเขา สถานการณ์ที่เกิดขั้นทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วเกาะมินดาเนา ขณะที่ทหารเริ่มการใช้การทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มติดอาวุธ


และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นเดือนศักดิ์สิทธิ์ รอมฎอน กองทัพฟิลิปปินส์ได้ประกาศยกระดับการทิ้งระเบิดโจมตีให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก โดยพลจัตวา เรสติตูโต ปาดิญา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า ทำเพื่อจัดการกลุ่มกบฏอย่างรวดเร็ว

จนถึงวันนี้ การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับกลุ่มติดอาวุธทำให้มีทหารเสียชีวิตแล้ว 13 นาย, ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ส่วนนักรบติดอาวุธเสียชีวิต 51 ราย เมื่อรวมกับพลเรือนที่เสียชีวิตล่าสุด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุความรุนแรงครั้งนี้เพิ่มไปอยู่ที่ 85 รายแล้ว.



ที่มา:http://www.politic.zocialx.com/24428

คอหวยฮือฮา! ร่างทรง "พญานาค7เศียร " ให้หวยอีกแล้ว 3 ตัวเน้นๆ หลังงวดที่แล้วรวยเต็มๆ

จากกรณีที่กองทัพฟิลิปปินส์ เดินหน้าโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธยึดเมืองมาราวี ยอมรับ โดยมีนักรบต่างชาติเกี่ยวข้องไอซิส ตายแล้ว 6  ในขณะที่ประธานาธิบดีดูเตร์เต ชี้ไอซิสหวังยึดเกาะมินดาเนา ใช้เป็นฐานในอาเซียน เมื่อล่าสุดวันที่ 28พ.ค. ได้มีการรายงานความคืบหน้าของการสู้รบกันระหว่างกองทัพรัฐบาลฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธที่ประกาศสวามิภักดิ์กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส หลังบุกยึดเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา


โดยจากเหตุปะทะระหว่างกองกำลังความมั่นคงฟิลิปปินส์กับกลุ่มติดอาวุธในเมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 19 ราย ขณะที่กองทัพประกาศจะทิ้งระเบิดโจมตีให้หนักขึ้น

ได้มีการรายงานเข้ามาว่า กองทัพของประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยต่อสื่อในวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ว่า เหตุปะทะตามท้องถิ่นในเมืองมาราวีซึ่งถูกกองกำลังติดอาวุธยึดครองตามพื้นที่ต่างๆ ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตอีก 19 รายแล้ว ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเหตุความรุนแรงในเมืองบนเกาะมินดาเนาแห่งนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 85 รายแล้ว


โดยทางด้าน พันโท โฮ-อาร์ เอร์เรรา โฆษกกองทัพท้องถิ่นระบุว่า พลเรือนที่เสียชีวิตทั้ง 19 รายประกอบด้วยผู้ชาย 15 คน ผู้หญิง 4 คน และเด็กอีก 1 คน ศพของพวกเขาถูกพบใกล้กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองมาราวี ขณะที่ชายบ้านท้องถิ่นบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ผู้ตายส่วนหนึ่งเป็นลูกจ้างของโรงสีข้าวแห่งหนึ่ง อีกส่วนเป็นนักศึกษาแพทย์


ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงในเมืองมาราวีเกิดขึ้นหลังจากกลุ่มมือปืนนับร้อยคนออกอาละวาดภายในเมือง หลังกองกำลังความมั่นคงฟิลิปปินส์นำกำลังเข้ามาปฏิบัติการจับกุมตัวนายอิสนิยง อาปิยง นักรบติดอาวุธชาวฟิลิปปินส์ผู้ถูกระบุว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส ในแดนตากาล็อก



โดยในเบื้องต้นกลุ่มมือปืนประดับธงสีดำของไอซิสไว้หลายจุดทั่วเมือง รวมทั้งจับตัวบาทหลวง 1 รูป และชาวคริสต์ 14 คน จากโบสถ์แห่งหนึ่งเป็นตัวประกัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทราบชะตากรรมของพวกเขา สถานการณ์ที่เกิดขั้นทำให้ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วเกาะมินดาเนา ขณะที่ทหารเริ่มการใช้การทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มติดอาวุธ


และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นเดือนศักดิ์สิทธิ์ รอมฎอน กองทัพฟิลิปปินส์ได้ประกาศยกระดับการทิ้งระเบิดโจมตีให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก โดยพลจัตวา เรสติตูโต ปาดิญา โฆษกกองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า ทำเพื่อจัดการกลุ่มกบฏอย่างรวดเร็ว

จนถึงวันนี้ การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงกับกลุ่มติดอาวุธทำให้มีทหารเสียชีวิตแล้ว 13 นาย, ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ส่วนนักรบติดอาวุธเสียชีวิต 51 ราย เมื่อรวมกับพลเรือนที่เสียชีวิตล่าสุด ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุความรุนแรงครั้งนี้เพิ่มไปอยู่ที่ 85 รายแล้ว.

ผวากันทั้งเมือง!! จนท.ได้ทำการซ่อนกล้องเพื่อสำรวจสัตว์ป่า แต่สิ่งที่เค้าได้เจอกลับสยองหนัก!! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่!?


เป็นเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่อง สำหรับเพจทางเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า สำรวจโลก ได้มีการโพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า กล้องบันทึกภาพสัตว์ป่าจับภาพชายท่าทางประหลาดได้ เจ้าหน้าที่สัตว์ป่าได้ซ่อนกล้องตามจุดต่าง ๆ เพื่อคอยตรวจสอบสัตว์ป่า แต่ภาพที่พวกเขาเห็นนั้นมีชายคนหนึ่งเปลือยกายพร้อมแสดงท่าทางแปลกๆ จากนั้นได้แจ้งให้ตำรวจออกค้นหา พบว่าเป็นชายหนุ่มวัย 21 ปี ชาวสาธารณรัฐเช็ก เมื่อทำการสอบถามเผยว่าเขาได้ใช้สารแอลเอสดีไปจำนวนมากเพื่อรักษาอากาศซึมเศร้า จนคิดว่าตัวเองเป็นเสือโคร่งไซบีเรีย จากนั้นจึงวิ่งเข้าไปในป่าเขตแดนสาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์เพื่อที่จะทำตัวให้เหมือนเป็นเสือโคร่งไซบีเรีย

แอลเอสดี ( LSD) อาจเรียกว่า แอซิด เป็นสารเสพติดที่สกัดได้จากเชื้อราที่อยู่บนข้าวไรย์ เป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์หลอนประสาทรุนแรงที่สุด

ที่มา:http://manezi.com/9972

โคตรสยอง!! หนุ่มจับงู ตัด3ท่อน สุดท้ายต้องช็อก! "เมื่อมันไม่ยอมตาย" แถมยังทำแบบนี้!!? ผวาฉี่แทบราด!!(ชมคลิป)

เกิดเป็นคลิปที่ชวนขนลุกสุดๆ เมื่อหนุ่มคนหนึ่งพบ "งูกะปะ" ในสวนหลังบ้านของตัวเอง ซึ่งงูกะปะขึ้นชื่อว่าเป็นงูที่มีพิษร้ายแรง และด้วยความกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว เขาจึงฆ่ามันทิ้งด้วยการสับเป็น 3 ท่อน!!  (ถึงจะเป็นสัตว์ที่น่ากลัว แต่โดนฆ่าโหดแบบนี้ก็น่าสงสารเจ้างูเหมือนกันนะ)

แต่งานนี้ทำเอาทุกสายตาต้องอึ้งไปตามๆกัน เมื่อพบว่า "งูกะปะ" ที่ถูกสับให้ตายไปแล้วนั้น ชิ้นส่วนของมันทั้งหัวและหางยังคงดิ้นได้ราวกับมีชีวิต แถมหัวของมันยังคล้ายจะเอาปากกัดหางของตัวเองอีกด้วย (ขนลุกสุดๆ)

ถูกฆ่าตายด้วยวิธีสุดโหดแบบนี้ เฮือกสุดท้ายมันคงจะขอต่อสู้ถึงที่สุด ขนาดเหลือแต่หัวมันยังแสดงฤทธิ์อ้าปากขู่ได้น่ากลัวขนาดนี้ มองเห็นอะไรก็คงคิดว่าเป็นศัตรูไปหมดไม่เว้นแม้แต่หางของตัวเอง!!

"งูกะปะ" เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calloselasma rhodostoma จัดเป็นงูเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Calloselasma โดยไม่มีชนิดย่อย  ลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่ จะงอยปากงอนขึ้นข้างบน พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในภูมิภาคอินโดจีนไปจนถึงแหลมมลายู สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภาคแต่จะพบมากที่สุดในภาคใต้ เป็นงูที่ปรับตัวให้อาศัยอยู่ในพื้น ๆ ที่มีการทำเกษตรกรรมได้ เช่น สวนยางพาราหรือสวนปาล์มน้ำมัน จึงมักจะมีผู้ถูกกัดอยู่บ่อย ๆ นับเป็นงูพิษที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดที่พบในประเทศไทย

ซึ่งพิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาทีหลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นย่างรวดเร็วจนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1ชั่วโมง โดยในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพองตอนแรกมีน้ำใสต่อมาภายหลังมีเลือด ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหาร ผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำซึ่งความดันโลหิตต่ำ เกิดจากการเสียเลือดนั่นเองhttp://www.siamlottery.com/view-13092.html

คุณแม่ให้ของขวัญแต่งงานลูกสาวเป็น "สมุดบัญชีพร้อมเงิน 1,000" นึกไม่ถึงว่าพอลูกสาวจะหย่า "ความลับในสมุดบัญชี" จะแสดงปาฏิหาริย์

 สุดยอดคุณแม่ ระวัง! อย่าอ่านในที่สาธารณะเด็ดขาดเพราะคุณจะน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว
 หลังแต่งงานคุณแม่ให้ของขวัญลูกสาวหนึ่งชิ้นเป็นสมุดบัญชีที่ข้างในมีเงิน 1,000 คุณแม่บอกว่า ทุกครั้งที่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นระหว่างเธอและสามีให้เธอเอาเงินฝากเข้าบัญชี ยิ่งเป็นเรื่องที่มีความสุขมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องฝากเงินเยอะมากขึ้นเท่านั้น แล้วทุกครั้งที่ฝาก อย่าลืมเขียนเหตุผลไว้ข้างๆด้วย
 เธอเอาเรื่องนี้กลับไปบอกสามีแล้วทั้งสองก็สะสมเงินพร้อมความสุขร่วมกันตั้งแต่วันนั้น
2 ก.ค. ฝาก 100 : ฉลองวันเกิดครั้งแรกกับสามีหลังแต่งงาน
1 มี.ค. ฝาก 300 : ภรรยาได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนขึ้น
20 มี.ค. ฝาก 200 : ไปเที่ยวเกาะบาหลีกับภรรยา 4 วัน 3 คืน
15 ม.ย. ฝาก 2000 : ภรรยาท้องแล้ว!
1 มิ.ย. ฝาก 1000 : สามีได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการแล้ว
 หลายปีผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มแย่ลง ทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่าเข้ากันไม่ได้ มีอะไรหลายๆอย่างที่แตกต่างกัน ทะเลาะกันบ่อย จนเริ่มไม่มองหน้ากัน เขาทั้งสองจำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ และผู้หญิงคนนี้ไปได้ยังไง และที่สำคัญทั้งคู่มีความคิดที่อยากจะหย่า
 อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองทะเลาะกันหนักจนภรรยาหนีกลับไปนอนบ้านแม่ เธอบอกกับแม่ว่า อยากจะหย่ากับสามี แม่เธอไม่ว่าอะไร บอกเธอว่าถ้าคิดดีแล้วก็หย่าเลย แล้วบอกว่าก่อนหย่าอย่าลืมเอาเงินที่เก็บไว้มาใช้ให้หมด

วันต่อมาเธอเลยไปที่ธนาคารเพื่อถอนเงินออกมาช็อปปิ้งให้หมด ระหว่างรอแถวที่ธนาคารเธอไม่มีอะไรทำก็เลยเปิดสมุดบัญชีดู แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหล เธอรีบกลับบ้านทันที เมื่อเจอสามีเธอก็ยื่นสมุดบัญชีให้เขาแล้วบอกว่าก่อนหย่าอย่าลืมไปถอนเงินออกมาให้หมด
วันต่อมาสามีก็ไปถอนเงินที่ธนาคาร ระหว่างต่อแถวก็พลิกสมุดบัญชีดูด้านใน แล้วก็ร้องไห้ออกมา จนพนักงานธนาคารต้องมาถามว่าเป็นอะไร

เมื่อกลับถึงบ้านเขาก็ยื่นสมุดบัญชีให้ภรรยา เพียงเธอเห็นสายตาของเขาเธอก็รู้แล้วว่าเขาได้รู้ถึงความลับของมัน เธอเปิดมันออกดูแล้วก็ต้องประหลาดใจ ยอดเงินไม่ได้กลายเป็น 0 อย่างที่คิด แต่กลับมีเงินเพิ่มมาอีก 5,000 พร้อมคำว่า “วันนี้ผมได้รู้แล้วว่าคุณมีความสำคัญกับชีวิตผมแค่ไหน ผมรักคุณมากแค่ไหน หลายปีมานี้คุณทำให้ผมมีความสุขที่สุด” ทั้งสองมองหน้า แล้วกอดกันแน่น กอดไปร้องไห้ไป

จากนั้นทั้งสองก็เอาสมุดบัญชีเล่มนี้ไปเก็บไว้ในตู้เซฟและบอกตัวเองว่า ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเราจะเอาสมุดบัญชีออกมาเปิดอ่าน
ระหว่างคนสองคน ถ้าคุณจำข้อดีของกันและกัน จำความทรงจำดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างกันได้ ก็จะทำให้คุณทั้งสองข้ามผ่านช่วงเวลาต่างๆไปด้วยกันได้ ถ้าคุณชอบบทความนี้ แชร์ต่อไป เพราะอาจมีบางคนได้ประโยชน์จากมัน

จำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อบ้านหลังใหญ่แค่ไหน แค่คุณคนเดียว คุณก็ต้องการแค่เตียงสำหรับล้มตัวลงนอน; กระเป๋าไม่ว่าแบรนด์ดังแพงแค่ไหน คุณสมบัติของมันก็ไม่ต่างจากถุงพลาสติก; ภรรยาคนอื่นต่อให้สวยแค่ไหนสักวันก็ต้องแก่; สามีคนอื่นต่อให้รวยแค่ไหน แต่เขาอาจจะทะเลาะกันทุกวันก็ได้ ถ้าคุณมัวแต่จ้องมองว่าคนอื่นมีความสุขมากแค่ไหน คุณอาจจะพลาดสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ข้างๆคุณไปได้
ทีมา liekr.com

สองหมวยอัดคลิปแชร์ร้องสดอยู่ดีๆ เจอรูมเมทชั้นสองลุกมา "ขโมยซีน" ซะงั้น!!

สองหมวยอัดคลิปคัฟเวอร์เพลงอยู่ดีๆ เจอรูมเมทชั้นสองลุกมาขโมยซีนซะงั้น!!
        เป็นอีกเทรนด์ในโลกออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมาเป็นเวลานาน สำหรับการร้อง cover เพลงดังๆ ของศิลปินดังทั่วโลกขึ้นมาให้ในสไตล์ของใครของมัน แถมยังสามารถร้องที่ไหนก็ได้อีกต่างหาก แม้แต่ในห้องนอนตัวเอง อย่างเช่นสองสาวชาวจีนที่กำลังร้องเพลงคัฟเวอร์อยู่บนเตียงชั้นล่าง แต่กลับโดนขโมยซีนไปแบบดื้อๆ เมื่อเพื่อนสาวรูมเมทที่นอนอยู่เตียงชั้นบนตื่นขึ้นมาขณะกำลังร้องเพลง แถมดูเหมือนเมื่อคืนนี้เธอจะหลับไปโดยไม่ได้ใส่ยูนิฟอร์มอีกต่างหาก!?
ฮาเลยงานนี้ สุดท้ายสาวชั้น 2 มีอารมณ์เสียเล็กน้อย ก็คนมันจะนอนแหละน้า ยังจะมาอัดเพลงกันอีก
ข้อมูลและภาพจาก Spokedark

หนุ่มพบ!! สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้าย "มังกร" เห็นแล้วถึงกับต้องร้อง "เฮ้ย!!" (คลิป)

 หนุ่มพบ!! สัตว์ประหลาดรูปร่างคล้าย "มังกร" เห็นแล้วถึงกับต้องร้อง "เฮ้ย!!" (คลิป)
หากพูดถึงมังกร หลายๆ คนเชื่อว่ามันเป็นเพียงแค่สัตว์ในตำนานหรือเทพนิยายที่ไม่มีจริงแต่อย่างใด แค่เป็นเพียงจินตนาการของผู้สร้างเพียงเท่านั้น  บางคนก็คิดว่า มันอาจมีจริงอยู่บนโลกใบนี้ แต่เป็นเพียงแค่ไดโนเสาร์ชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง ซึ่งก็ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยค้นไหนค้นพบซากหรือโครงกระดูก ที่อ้างว่าเป็นของมังกรที่ดูน่าเชื่อถือได้เลยสักครั้ง แต่ถ้ามันเป็นเรื่องโกหก ทำไมในตำนานเรามักจะพบเรื่องราวเกี่ยวกับมังกรบ่อยๆล่ะ สงสัยเหมือนกันไหม ?? เพราะเรื่องราวในตำนานส่วนใหญ่ก็มักจะมีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง
คลิปนี้เป็นกระแสอย่างมากในโลกโซเชียล เมื่อชายหนุ่มคนนึงได้ถ่ายคลิปสัตว์ประหลาด รูปร่างคล้ายมังกรเหมือนที่เราเคยเห็นบ่อยๆในหนังและการ์ตูนต่างๆ ขนาดความยาวประมาณ 2-4 เมตร และยังซูมเข้าไปให้เห็นใกล้ๆ


เราลองไปดูคลิปที่ว่ากันเลยว่ามันใช่มังกรจริงๆเหรอเนี้ย ?
ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย  แต่พอเห็นแล้วแบบ เฮ้ย! มันเหมือนมังกรจริงๆ เหมือนแบบที่เห็นในหนังเป้ะเลย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นมังกรจจริงๆรึเปล่าหรืออาจจะเป็นเพียงแค่หุ่นที่เค้าใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากในหนังเท่านั้นรึเปล่า อันนี้ก็ไม่มีใครสามารถออกมายืนยันได้
http://www.liekr.com/post_144186.html?ref=hot_post_11

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!? เพนกวินตัวนี้ว่ายน้ำ 8,000 กม. เพื่อมาเยี่ยมชายที่ช่วยชีวิตมันไว้ทุกปี!

 อย่างที่ทราบกันดีว่าการมีสัตว์ป่าไว้ครอบครองนั้นผิดกฎหมาย แต่ในกรณีนี้เห็นทีต้องยกเว้น ที่ประเทศบราซิล
ในปี 2011 เมื่อเจ้านกเพนกวิน ดินดิม ได้รับบาดเจ็บและนอนหายใจรวยรินเนื่องจากเลอะไปด้วยน้ำมันอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่ง จนกระทั่ง เจา เปไรร่า เด ซูซา ชาวประมงวัย 71 ปึ พบมันและได้ทำการรักษามันจนมันหายดี เด ซูซา
พบว่าเจ้าดินดิมไม่ต้องการไปไหน แต่สุดท้ายมันก็ไป ก่อนที่จะกลับมาหาทุก ๆ ปี จนถึงปัจจุบัน
เด ซูซา กล่าวว่าเขารักเจ้านกเพนกวินตัวนี้เหมือนลูกหลาน และเชื่อว่าเจ้านกดินดิมเองก็รักเขาไม่น้อยเช่นกัน มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสัมผัสและกอดเจ้าดินดิมได้ เวลาพบกับเขาก็มักจะทักทายมัน ให้อาหารและอาบน้ำให้มันเหมือนเด็ก
ยังไงยังงั้น

ใคร ๆ ก็บอกเป็นเสียงเดียวว่าเจ้าดินดิมไปแล้วคงไม่กลับมา แต่ตอนนี้ทุกคนเชื่อแล้วว่าเจ้าดินดิมกลับมาทุก ๆ ปี
หากใครจะบอกว่าสัตว์ไม่มีหัวใจเห็นทีคงจะไม่ได้แล้วนะครับ

ขอบคุณคลิปจาก : Wall Street Journal

ประชาชนเงิบ!! ชาวเน็ตอินโดฯ จับภาพจอโฆษณากลางถนนฉาย "หนังโป๊" แจงฝีมือแฮกเกอร์

ประชาชนเงิบ!! ชาวเน็ตอินโดฯ จับภาพจอโฆษณากลางถนนฉาย "หนังโป๊" แจงฝีมือแฮกเกอร์
        สำนักข่าว metro รายงานข่าวโซเชียลมีเดียของอินโดนีเซียมีการส่งต่อภาพหน้าจอโฆษณากลางถนนในเซาท์จาการ์ตา ใกล้กับสำนักงานนายกเทศมนตรี หลังปรากฏภาพเคลื่อนไหวจากหนังลามกของญี่ปุ่น สร้างความตกตะลึงพรึงเพริดให้กับผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะในประเทศที่หนังลามกถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

 รายงานข่าวระบุว่า หนังลามกถูกเปิดอยู่นานประมาณ 5 นาที ก่อนหน้าจอจะดับลง แต่ก็นานพอที่ผู้สัญจรจะพากันหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกคลิปและภาพเอาไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่ผู้จัดการป้ายโฆษณาชี้แจงถึงเหตุการณ์เกิดขึ้นว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ ส่วนชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นในเชิงตลกขบขันไม่ว่ามันจะเป็นความตั้งใจของคนหรือเป็นการกระทำของแฮกเกอร์ก็ตาม
ข้อมูลและภาพจาก Morning-news

ความลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาถูกเปิดเผย! เมื่อชายที่หายเข้าไป 36 ปีกลับออกมา!

 สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ชื่อที่พวกเราคุ้นหูกันนี้เป็นเขตพื้นที่ที่นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาต่างพากันศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับความลึกลับของเขตพื้นที่มรณะแห่งนี้ เพราะมันกลืนเครื่องบิน เรือ และคนจำนวนมากหายเข้าไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ทิ้งร่องรอยไว้แต่น้อย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่หายเข้าไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นหายไปอยู่ไหน…

ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุแล้วหายสาบสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เช่น นักบินหรือลูกเรือนั้น มักจะปรากฏตัวที่ไหนสักแห่งหลังจากหายไปหลายปี
 สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดาในอเมริกาเหนือ กินพื้นที่ตั้งแต่หมู่เกาะเบอร์มิวดาลากตรงไปถึงไมอามี่ไปจนถึงเปอโตริโก ทำมุมบรรจบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ในแถบน่านน้ำมหาสมุทรแอตแล นติก
 น่านน้ำแถบนี้มักจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่สามารถใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์หรือการสันนิษฐานทั่วไปเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้

แต่คนที่หายไปเมื่อ 36 ปีที่แล้วปรากฎตัวขึ้นได้อย่างไร?

เมื่อปี ค.ศ. 1954 ในเขตทะเลแคริบเบียน โรแกนและนอตันได้แข่งขันขับเคลื่อนบอลลูนผ่านมหาสมุทร ในวันแข่งขันนั้นเป็นวันอากาศดีมาก ท้องฟ้าเปิด แต่แล้วบอลลูนของพวกเขาก็หายไปต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก
เจ้าบอลลูนที่หายไปหลายสิบปีนี้ถูกพบอีกทีในปี ค.ศ. 1990 ที่เขตน่านน้ำทะเลคิวบา รัฐบาลคิวบาเคร่งเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขา  Agelon of Major นักบินชาวคิวบากล่าวว่า “บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ก่อนหน้านี้ 1 นาทีไม่มีอะไรอยู่บนนั้นแต่หลังจากนั้น 1 นาทีอยู่ๆก็มีบอลลูนโผล่มา”

ในตอนนั้นกองทัพคิวบาได้ตรวจเจอบอลลูนลำนี้ด้วยเรดาห์ จึงนึกว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาและเตรียมจะสั่งการเครื่องบินรบให้ออกไปยิงต่อสู้
ท้ายที่สุดบอลลูนลำนี้ถูกเครื่องบินของคิวบาโจมตีจนตกลงในมหาสมุทร โรแกนและนอตันถูกเรือกู้ชีพช่วยขึ้นมาได้และถูกส่งตัวไปสอบปากคำที่ฐานลับทหารเรือของประเทศคิวบา โรแกนและนอตันเล่าว่า พวกเขากำลังแข่งขันการขับบอลลูนจากฮาวานาไปสู่เปอโตริโก ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานถึง 36 ปีแล้ว รู้สึกแค่ว่าเจ็บแสบเบาๆตามตัวเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วร่างกาย พอกระพริบตาทุกอย่างก็กลายเป็นสีเทาทั้งท้องฟ้าและมหาสมุทร แล้วพวกเขาก็เห็นเครื่องบินรบของคิวบาปรากฎอยู่ตรงหน้า

นักสืบสวนสอบสวนชาวชิคาโก Carl `Al Gore ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการให้ปากคำของโรแกนและนอตันว่าพวกเขาได้หายไปอย่างพิศวงท่ามกลางการแข่งขันขับบอลลูนจริง

Carl สันนิษฐานว่าบอลลูนได้เดินทางผ่านมิติเวลา เขากล่าวว่า”สำหรับพวกเขามันเป็นเวลาเพียงแว้บเดียวแต่เวลาบนโลกนี้ได้ผ่านไปถึง 36 ปีแล้ว อาจจะพูดได้ว่าบนโลกของเรามีอีกหนึ่งมิติเวลาที่ช้ากว่าปกติ”

นักวิทยาศาสตร์ต่างพากันพูดถึงเหตุการณ์ประหลาดและบุคคลที่หายตัวไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในช่วงนั้น

แม้ว่านักสอบสวนจะบอกพวกเขาซ้ำๆว่าเวลาได้ผ่านไปนานกี่ปีแล้ว จนพวกเขารับได้กับความจริง แต่การที่จะสืบสวนว่าเรื่องราวในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างพวกเขาก็ตอบไม่ถูกเพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็โผล่มาที่นี่แล้ว

บุคคลที่หายสาบสูญไปไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว…เหมือนอยู่ดีๆก็มาโผล่ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ! แล้วคุณล่ะ เชื่อเรื่องมิติเวลานี้ไหม?

ที่มา liekr

ทำไปได้! หนุ่มสาวมีเซ็กซ์กันบนรถเมล์ ไม่แคร์สายตาผู้โดยสารที่นั่งข้างๆ(คลิป)

 เว็บไซต์เดลีสตาร์ของอังกฤษได้เผยแพร่คลิปวิดีโออื้อฉาวของชายหญิงคู่หนึ่งที่มีเซ็กซ์กันอย่างโจ๋มครึ่มบนรถประจำทาง โดยคลิปนี้ถ่ายโดยคนที่นั่งข้างๆ ชายหญิงคู่นี้ โดยฝ่ายชายนั่งอยู่แถวหลังของรถบัส ให้ฝ่ายหญิงนั่งอยู่บนตัก แล้วทั้งคู่ก็มีเพศสัมพันธ์กันอย่างร้อนแรง ไม่แคร์สายตาผู้โดยสารคนอื่นบนรถบัส หนำซ้ำฝ่ายหญิงยังหันไปจูบฝ่ายชายอย่างดูดดื่ม หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจอันอื้อฉาวแล้ว

คลิกที่นี่เพื่อดูคลิป (คำเตือนคลิปมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม)

ขนลุกซู่!! วิญญาณสาวสุดเฮี้ยนโผล่ยืนกลางถนนคอยตัดหน้ารถยนต์กลางดึก ด้านชาวเน็ตเผยเคยเจอกับตัวเองเหมือนกัน!? (คลิป)


นับเป็นหนึ่งในคลิปวิดีโอที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างมากจากกรณีกล้อง CCTV บนถนน Paseo de la Reforma ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโกสามารถจับภาพปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเอาไว้ได้!!
    ณ ช่วงเวลาตี 02.20 น.ของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมากล้อง CCTV สามารถจับภาพคล้ายวิญญาณหญิงสาวปรากฏกายขึ้นกลางทางข้ามม้าลายตรงกับเลนที่กำลังมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูงพอดิบพอดี  ซึ่งรถยนต์คันนี้ได้พุ่งทะลุร่างของวิญญาณสาวไปโดยไม่ได้หักหลบหรือเบรคแต่อย่างใด

    ทั้งนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์มีผู้ชมบางส่วนที่ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาเองก็เคยเจอกับปรากฏการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติแบบนี้เช่นเดียวกัน!!

ที่มา:http://www.news-lifestyle.com/contents/157788/

กลั้นน้ำตาไม่อยู่!! "พ่อ" ใจสลายส่ง"ลูกน้อย"เข้าโลงศพ ก่อนบังเกิดวินาทีพลังรักยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย!! แทบทำใจไม่ได้!! (ชมคลิป)


เชื่อว่านี่เป็นวินาทีสะเทือนใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สุดในชีวิตแล้ว เมื่อต้องมาส่ง "ลูก" ผู้เป็นดวงใจที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไปสู่สวรรค์ โดยเพจ เฟซบุ๊ก "Mérsin Vieira" ได้แชร์คลิปของคุณพ่อคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าเสียใจกำลังบรรจงกอดจูบ หอมร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยเพื่อจดจำสัมผัสสุดท้าย ก่อนที่จะนำร่างลูกใส่โลงศพเพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

โดยคลิปดังกล่าวโพสต์ขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 25 ล้าน และแชร์กว่า 6 แสนครั้งแล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สร้างความสะเทือนใจและซาบซึ้งไปพร้อมๆกัน ในเวลากว่า 3 นาที คุณพ่อพยายามที่จะซึบซับสัมผัสสุดท้ายไว้ให้นานที่สุดก่อนจะค่อยๆบรรจงวางร่างของลูกในโลงศพ มองภาพลูกน้อยที่เคยมีลมหายใจและทำให้คนเป็นพ่อมีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลั้นใจเดินออกไป อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับชมคลิปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่างเป็นวินาทีที่สะเทือนใจเสียจริงๆ


ที่มา:http://www.news-lifestyle.com/contents/157682/

ฝากไว้เป็น”อุทาหรณ์”ก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ ขับรถชนเด็ก(ชมคลิป)

คลิปนนี้ต้องฝากไว้เตือนใจ คนที่ชอบเล่นโทรศัพท์แล้วขับรถ อย่างสาวจีนคนนี้ ขับรถไม่ทันระวัง ทั้งๆที่เด็ก 3 คนนั่งเล่นกันอยู่ ทำให้ เด็กบาดเจ็บสาหัส

ออฟโรดท้ามฤตยู! รอเรือข้ามฟากเทียบท่าไม่ไหว-ขึ้นซิ่งเก๋งชิงข้ามก่อน… (ดูคลิป)

เว็บไซต์ แคร์ช ของรัสเซียเผยภาพกล้องวงจรปิดอุบัติเหตุหวาดเสียวในเมืองแคร์ช บนแหลมไครเมียของรัสเซีย เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ขณะที่เรือข้ามฟากซึ่งบรรทุกรถยนต์จำนวนมากใกล้เข้าจอดท่าเรืออีกไม่ถึง 10 เมตร จู่ๆ ผู้ชายคนหนึ่งอดทนรอไม่ไหว เดินขึ้นรถเก๋งคันสีดำแล้วเร่งเครื่องยนต์ หวังจะวิ่งกระโดดข้ามไปท่าเรือแต่ข้ามไม่พ้น และจมลงสู่ทะเลในที่สุด
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สั่งปิดท่าเรือชั่วคราวและใช้เครนยกรถเก๋งขึ้นมาจากน้ำ และช่วยเหลือคนขับและผู้โดยสารออกมาอย่างปลอดภัย ก่อนนำส่งไปสถานีตำรวจ จากการสอบสวนทราบว่า คนขับรถมีอาการเมาสุรา ตรงกับคำให้การของพยานในเหตุการณ์ โดยคลิปดังกล่าวมียอดชมเป็นจำนวนมากหลังเผยแพร่ไม่นาน
ทีมา https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_13948

อุ้ยผิดเส้น! ถึงกับสะดุ้ง เมื่อพ่อค้าหวังดี จะดึงด้ายที่โผล่มาจากกางเกงที่ลูกค้าลอง แต่ดันดึงผิดซะนี่(มีคลิป)

ร้องเสียงหลงง!! พ่อค้าหวังดีช่วยลูกค้าสาวดึง”ปลายเส้นด้าย”ที่โผล่จากขากางเกง! แต่กลับถูกตบหน้าหัน! เพราะดึงเส้นนี้มาแทน!! บอกเลยโครตฮา!!

“ลูกค้าสาว”รายนี้ ที่ได้ไปซื้อกางเกงที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งแล้วขอ “พ่อค้า” ลองใส่ดูเพื่อความชัวร์ แต่ระหว่างที่กำลังลองใส่อยู่นั้นด้วยความที่พ่อค้าคงจะหวังดีเห็น “ปลายเส้นด้าย” ที่ตัดเย็บไม่เรียบร้อยโผล่ออกมา จึงช่วยดึงให้ลูกค้าสาวคนนี้!

แต่สุดท้ายความหวังดีกลับไม่เป็นผลดีซะงั้น! เมื่อจังหวะที่พ่อค้ายื่นมือไปช่วยดึงเส้นด้าย ลูกค้าสาวก็ถึงกับสะดุ้งโหยง ออกอาการโกรธเคืองและไม่พอใจอย่างหนักก่อนต่อว่าและตบหน้าพ่อค้าดังเพี๊ยะ!! และนั่นทำให้พ่อค้าเข้าใจแจ่มแจ้งแดงแจ๋ทันทีว่าที่ดึงมาน่ะมันคือเส้นอะไร!!?? ฮาจริงๆ

เเบบนี้ก็ได้หรอ!!? “พี่จีนจัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์” ด้วยการให้ผู้ชายงับองุ่นที่ห้อยอยู่ที่หน้าอกฝ่ายหญิง!!!

บริษัทแห่งหนึ่งในประเทศจีน จัดกิจกรรมสันทนาการ เพื่อสร้างความสามัคคีให้กับเหล่าพนักงาน โดยเป็นเกมการแข่งขันให้พนักงานชาย-หญิงจับคู่กัน จากนั้นให้ฝ่ายหญิงนำพวงองุ่นผูกเชือกมาห้อยคล้องคอ เพื่อนชายมางับกินผลองุ่น
ถือเป็นคลิปที่กำลังเป็นกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย โดยเว็บไซต์มิเรอร์ ได้เผยเเพร่คลิปวิดีโอของบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งจัดกิจกรรมสันทนาการ เพื่อสร้างความสามัคคีให้กับเหล่าพนักงาน โดยเป็นเกมการแข่งขันให้พนักงานชาย-หญิงจับคู่กัน จากนั้นให้ฝ่ายหญิงนำพวงองุ่นผูกเชือกมาห้อยคล้องคอ เพื่อให้ผลไม้อยู่ที่ระดับหน้าอก จากนั้นก็ให้ฝ่ายชายก้มลงไปกินองุ่นที่ห้อยอยู่ในระดับหน้าอกของคู่บัดดี้ของเขา โดยไม่ให้ใช้มือช่วย

ไอ้หื่น!! ย่องส่องใต้กระโปรงสาว-คว้าหมับ 1 ทีก่อนชิ่งหนี ชมคลิป

โลกนี้มันน่ากลัว หนุ่มหื่นย่องส่องใต้กระโปรงสาว-คว้าหมับ 1 ทีก่อนชิ่งหนี


เผยคลิปชวนอึ้งจากจีน หนุ่มหื่นโน้มตัวลงไปแหงนส่องใต้กระโปรงสาวอย่างเปิดเผยและน่าเกลียดสุด ๆ ขณะเธอกำลังยืนรอลิฟต์ ก่อนล้วงมือเข้าไปจับ 1 ทีแล้วชิ่งหนีเมื่อเหยื่อรู้ตัว

          คลิปวิดีโอนี้ถูกเปิดเผยบนเว็บไซต์ไลฟ์ลีค เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงสาวรายหนึ่งกำลังยืนรอลิฟต์อยู่ มือของเธอนั้นถือของอยู่เต็มทั้งสองข้าง ขณะที่บริเวณนั้นมีหนุ่มรายหนึ่งยืนรอลิฟต์อยู่ด้วย

  ใครจะคาดคิดว่าจู่ ๆ เหตุการณ์สุดอุกอาจจะเกิดขึ้น เมื่อหนุ่มรายนี้ได้อาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ค่อย ๆ คุกเข่าลงแล้วโน้มตัวลงไปส่องใต้กระโปรงของหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า บังเกิดเป็นภาพการกระทำที่น่าเกลียดสุด ๆ อย่างที่เห็น
   แค่การโน้มตัวลงไปส่องใต้กระโปรงแบบนั้นก็น่าเกลียดมากพอแล้ว หนุ่มรายนี้ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขายังเอื้อมมือไปจับใต้กระโปรงของเธอด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้สึกตัว รีบใช้มืดปัดแล้วหันหลังควับมาดูทันที ทำให้หนุ่มหื่นรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีหายไป

   อย่างไรก็ตามงานนี้หญิงสาวไม่ยอมทำอะไรสักอย่างหลังเกิดเหตุ เธอเพียงย่ำเท้าอยู่กับที่ก่อนจะยืนสำรวจตัวเองอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้ไอ้หื่นหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล

Powered by Blogger.