เศร้าทั้งประเทศ!!!…เปิด2คลิปสุดท้าย”น้องรุ้ง” สะอื้นบอกรัก…ก่อนถูกฆ่าถ่วงน้ำ(มีคลิป)

จากกรณีพบศพหญิงสาววัยรุ่น ถูกฆ่าห่อด้วยผ้านวมมัดเชือกไนลอนโยงกับกระสอบปุ๋ยใส่คอนกรีตถ่วงน้ำคลองสำโรง ช่วงตัดกับคลองผู้เฒ่า ถนนเทพารักษ์ ก.ม.22 ซอย ซับแดง ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุดมีน้าสาวมาให้การยืนยันว่าผู้ตายอาจเป็นด.ญ.พรทิพย์ หรือรุ้ง กุลนานันท์ อายุ 12 ปี หลานสาวที่แม่รับจาก จ.ร้อยเอ็ด มาอาศัยในย่านดังกล่าวร่วมอยู่กับสามีใหม่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 60 ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของ นายสุบรรณ และนางสายสมรที่ใช้ร่วมกัน พบว่าก่อนที่ น้องรุ้ง จะเดินทางไปกรุงเทพฯ กับแม่ ได้นำโทรศัพท์ไปอัดคลิปตนเอง 2 คลิป ก่อน ถูกแม่และพ่อเลี้ยงร่วมกันฆ่าถ่วงน้ำและทำแผนประกอบคำรับสารภาพไปแล้วนั้น ในกระต๊อบข้างบ้าน คลิปแรก บ่นน้อยใจทั้งน้ำตาที่พ่อตายแล้วแม่ไม่มารับไปอยู่ด้วย ส่วนคลิปที่สองบอกว่าคิดถึงพ่อ

ไม่คิดว่าพ่อจะตายจากหนูไป หนูจะรักพ่อ หนูยังรักพ่ออยู่ ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกพบหลังจากที่ น้องรุ้ง เสียชีวิตแล้ว สร้างความโศกเศร้าสะเทือนใจให้กับทุกคนที่ได้ดู อย่างไรก็ตาม วันนี้ตาและยายเตรียมตัวเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อจะไปเตรียมเผาศพ น้องรุ้ง แล้วนำกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้าน แต่ยังไม่ทราบว่าจะฌาปนกิจวัดไหน รอให้ลูกสาวคนเล็กซึ่งเป็นน้องสาวของแม่น้องรุ้งเป็นผู้ดำเนินการ

ที่มา:http://www.phandinkerd.com/18105/

มาดูกันชัดๆ ป.ป.ส. เผยยอดเงินในบัญชี “เอิร์น” ล่าสุดเหลือเท่านี้ มันจริงหรือ ขยี้ตาดูหลายๆรอบ(รายละเอียด)

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 60 เจ้าหน้าที่ สภ.เขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุชาวบ้าน ว่าพบศพหญิงสาวถูกฆ่าหั่นศพแล้วนำมายัดใส่ถังฝังดิน จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง อายุประมาณ 23 ปี ผมสีดำ ใบหน้ามีรอยบวมช้ำ ที่ลำคอรอยรัดด้วยถุงดำ มีบาดแผลถูกตัดด้วยเลื่อยบริเวณใต้ชายโครงจนขาด ส่วนท่อนล่างมีเชือกจูงสุนัข มัดที่แขนขวา ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาววริสรา หรือ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี


จากกรณีนี้ทำให้สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแก๊งฆ่าหั่นศพกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากปล่อยให้มีภาพตำรวจชุดจับกุมถ่ายภาพเซลฟี่กับกลุ่มผู้ต้องหา และให้เห็นอิริยาบถตอนนอน ตอนมาส์กหน้า ตอนแต่งหน้า ตอนสูบบุหรี่ ออกมาเผยแพร่บนโลกโซเชียลนั้น



โปรดใช้วิจารณญาณในการเสี่ยงโชค
ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลใว้ณที่นี้ด้วย
 ปล: ข้อมูลหวยเด็ดชุดนี้เป็นเพียงแนวทางในการเสี่ยงโชคสลากกินแบ่งรัฐบาล และขอสนับสนุน ให้เสี่ยงโชคกับสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น

คลิปลับ“เปรี้ยว”มือหั่นศพโชว์เสียวเสี่ยโป้เจ้าตัวอึ้งฆ่าคนเสร็จส่งคลิปโชว์สยอง31/05/60 (ชมคลิป)

ที่มา:https://www.youtube.com/watch?v=R6x6NZe3JCw

คลิปลับ“เปรี้ยว”มือหั่นศพโชว์เสียวเสี่ยโป้เจ้าตัวอึ้งฆ่าคนเสร็จส่งคลิปโชว์สยอง31/05/60 (ชมคลิป)

เปิดปากครั้งแรก!! “เอิร์น-แจ้” เผยคำพูด นาทีอยู่ในเหตุการณ์หั่นศพแอ๋ม เก็บร่าง-ล้างเลือด (คลิป)

เปิดปากครั้งแรก!! “เอิร์น-แจ้” เผยคำพูด นาทีอยู่ในเหตุการณ์หั่นศพแอ๋ม เก็บร่าง-ล้างเลือด (คลิป)


จากกรณีข่าว เปรี้ยว สวยหั่นศพ ที่ได้ฆ่า น้องเเอ๋ม พร้อมด้วยพรรคพวกอีก 3 คน ซึ่งได้มีการหนีของนอกประเทศเพื่อไปกบดานอยู่ที่อื่น ซึ่งล่าสุดจนทได้มีกุมจับ ทั้ง 3 คนได้ทั้งหมดเเล้ว เเละเมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 4 มิถุนายน หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำน.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย ในเบื้องต้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 3 คน ขึ้นเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาที่สนามบินขอนแก่น โดยมีรถตู้มารอรับ ก่อนจะพาทั้ง 3 คน เข้าไปยัง ศฝร.ภาค 4 เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (5พ.ค.)  ทางเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหา 3 สาว ทั้งเปรี้ยว เอิร์น และแจ้ ถึง สภ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น พร้อมกับสอบปากคำและนำตัวไปยังจุดเกิดเหตุ

ซึ่งแจ้ เปิดเผยว่า หลักจากที่เกิดเหตุก็ตั้งใจที่จะมอบตัว ซึ่งตนได้ตัดสินใจหลายวันแล้ว จากที่หลบหนีตนได้ไปหลบอยู่ในป่าบ้าง ข้างทางบ้าง ทางแจ้ยังได้บอกอีกว่า ขอโทษ และหลังจากเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สบายใจขึ้น ตอนนี้ตนก็ไม่เครียดแล้ว

ส่วยทาง เอิร์น กล่าวว่า หลังนำร่างแอ๋มมาแล้ว เปรี้ยวกับวศิน เป็นคนลงมือหั่นศพ แต่ตนนั้นไม่ทราบว่าหั่นส่วนไหนก่อน เพราะได้ยืนหันกลังให้ รู้แค่ว่าตอนนั้นตกใจ กลัว  เปรี้ยวกับวศิน ใช้เวลาหั่นประมาณ 1 ชม. พอเสร็จแล้วก็ไปช่วยกันเก็บร่างซึ่งได้เก็บส่วนท่อนบนไปก่อน  ก่อนที่ตัวเองจะไปช่วยกันล้างเลือดกับแจ้ และขนขึ้นรถ

ที่มา:http://www.politic.zocialx.com/25249

ผบ.ตร.แถลง!!! “เปรี้ยว” ให้การสารภาพสาเหตุหั่นศพ “แอ๋ม” แทนการถ่วงน้ำ (คลิป+รายละเอียด)

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 4 มิ.ย. ผบ.ตร.  พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา  ได้ออกมาแถลงข่าวคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม หลังได้สอบปากคำ 3 ผู้ต้องหาที่เพิ่งถูกนำตัวมาจาก จ.เชียงราย คือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว, น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น และ น.ส.อภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยว่าผู้ต้องหาให้การว่าคดีนี้ไม่ใช่เรื่องขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เหมือนที่โซเชียลพูดกัน แต่เป็นปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัว เรื่องยาเสพติดและหนี้สิน ประมาณ 30,000-40,000 บาท ที่ น.ส.วริศรายืมไป

พล.ต.อ.จักรทิพย์ เผยอีกว่า ผู้ต้องหาได้ระบุว่าเขาต้องการแค่จะสั่งสอน เพราะว่าไม่ได้เจอกันเป็นปี

ทั้งนี้ยังได้ระบุว่าความคิดของผู้ต้องหานั้น มี 2 ทางในการอำพรางศพ นั่นคือ ถ่วงน้ำ และ หั่น  และสุดท้ายก็เลือกทางเลือกที่ 2 คือการหั่น เพราะคิดว่าขณะนั้นศพเริ่มแข็งตัว หากถ่วงน้ำก็จะโผล่

เรื่องการจับกุมตัว ผบ.ตร. กล่าวว่า “ทางเราได้กดดันไปทางประเทศเพื่อนบ้าน และเขาก็ตั้งใจมอบตัวในเวลาเดียวกัน.. ได้กดดันทุกวิถีทาง ไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อน เขาก็ตัดสินใจมอบตัวอยู่ ผมถามว่าสาเหตุที่มามอบตัวเพราะอะไร เขาบอกว่าเขาไม่อยากให้คนที่เขาไปอยู่ด้วยเดือดร้อน หลังจากที่เขาตั้งสติได้แล้วว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด เลยคิดจะมอบตัว และได้ยืนยันหนักแน่นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา”

เมื่อถามถึงเรื่องที่ น.ส.ปรียานุช และพวกไปต่างประเทศบ่อยๆ ไปทำอะไร ผบ.ตร. ระบุว่า น.ส.ปรียานุชบอกว่า ตนอยากมีเงินเหมือนคนอื่นๆ เพราะตนมีพ่อแม่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งมองเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนเรื่องที่ตำรวจไม่ได้ใส่กุญแจมือผู้ต้องหาเพราะตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี และผู้ต้องหาก็อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ และมีความคิดที่จะมอบตัว

ที่มา:http://www.politic.zocialx.com/25233

นังนี่โคตรไม่ธรรมดา!!!…ปปส.รับเอง ชัดแล้ว “เปรี้ยว หั่นสยอง” ซุกปีกอิทธิพล “ยี่เซ” เข้ากลีบเมฆแล้ว เกินเอื้อมสุดๆ (รายละเอียด)

จากกรณีคดีฆาตรกรรมหั่นศพสุดสยอง “น้องแอ๋ม” สาวคาราโอเกะ ซึ่งหลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้แยกย้ายกันหลบหนีไป โดย น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ได้หลบหนีไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะชื่อดังที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ส่วน น.ส.จิดารัตน์หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และล่าสุดก็ถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้แล้ว

 โดยก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวรายงานว่า น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ทั้งคู่หายตัวไปแล้ว คาดว่าคงจะหลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมา และเจ้าหน้าที่ของไทยกำลังประสานงานกับทางการประเทศเมียนมาในการตามจับกุมทั้งสองคน

ซึ่งทั้งนี้มีหลายข่าวรายงานว่าเปรี้ยวอาจหลบหนีไปอยู่ในเขตคุ้มครองของกลุ่มมูเซอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยยังคงประสานงานกับทางการฝ่ายเมียนมาให้ช่วยดำเนินการติดตามจับตัวส่งกลับไปดำเนินคดีในไทย แต่ในทางปฏิบัติจริงค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เพราะมูเซอ เป็นกองกำลังอิสระ มีเขตพื้นที่อิทธิพลของตัวเองชัดเจน ทางการพม่าเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง หากไม่ใช่เรื่องใหญ่จริง  ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวกรวม 5 คน จากการตรวจสอบประวัติ เปรี้ยวกับพวก พบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเฉพาะเปรี้ยวนั้น เป็นทั้งผู้ค้าและเสพ

อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ ปปส. ยังออกมาเปิดเผยประวัติที่ไม่ธรรมดาของ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว ว่ายังได้มีการติดต่อกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดยจากการสอบสวนประวัติเปรี้ยวเคยนำยาบ้ามาขายให้กับกลุ่มเพื่อนสาวที่ทำงานกลางคืนด้วยกัน จึงคาดว่าเปรี้ยว น่าจะไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่นี้เพื่อหลบซ่อนตัว

ทั้งนี้เองจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ในส่วน น.ส.วริสรา หรือน้องแอ๋ม ผู้ตายนั้นเบื้องต้นป.ป.ส. ไม่พบว่ามีประวัติการใช้ยาเสพติด จึงคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความแค้นส่วนตัว มากว่าจะมีใบสั่งฆ่ามาจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม จากโพสต์ภาพก่อนหน้านี้ของเปรี้ยว มีการโพสต์แบบใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย มีชีวิตอย่างหรูหราผ่านทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลว่าเงินดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร หากมีหลักฐานชี้ชัดว่าเงินนั้นอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติด ก็จะประสานเจ้าหน้าที่ ปปง. เตรียมเข้ายึดทรัพย์

ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่รีบดำเนินการจับกุมตัวมาให้เร็วที่สุด แต่คงยากกว่าหน่อยเพราะมีรายงานว่า เปรี้ยวพร้อมกับพวกที่กำลังหลบหนีอยู่นั้น ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตคุ้มครองของกองกำลังอิสระกลุ่มชาวเขาเผ่ามูเซอ โดยมี พ.ท. ยี่เซ เจ้าพ่อค้ายาเสพติดเป็นหัวหน้ากองกำลัง ซึ่งทางการพม่าก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยแต่อย่างใด

พันโทยี่เซ ผู้นำมูเซอดำ

นายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล หรือ พ.ท.ยี่เซ อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 449/2546 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 อดีตเป็นทหารของขุนส่า คุมพื้นที่ด้านตรงข้ามบ้านผาฮี้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ปัจจุบันเป็นหัวหน้าอาสาทหารพม่า เชื้อสายมูเซอ อาศัยอยู่ที่บ้านน้ำปุ๋ง มีพื้นที่อิทธิพลและแหล่งผลิตยาเสพติดที่บริเวณบ้านน้ำปุ๋งใหม่ บ้านสามปี ฝั่งพม่า ตรงข้าม ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2546 กองกำลังผาเมือง กองทัพภาค 3 สนธิกำลังกับตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 และป.ป.ส. บุกปิดล้อมพื้นที่เป้าหมายรวม 18 จุด ใน จ.เชียงราย และเชียงใหม่ แต่ไม่พบตัว แต่สามารถยึดทรัพย์สินได้กว่า 10 ล้านบาท

นับตั้งแต่รัฐบาลทหารพม่าเริ่มปฏิบัติการกดดันชนกลุ่มน้อยทั้ง 17 กลุ่มมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงขณะนี้ปี 2553 กำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น จึงมีแผนบีบให้ชนกลุ่มน้อยยอมจำนน แต่ยังมีชนกลุ่มน้อยอย่างน้อย 3 กลุ่ม ที่พยายามต่อต้านและเพิ่มกำลังผลิตยาเสพติด เพื่อนำเงินมาซื้ออาวุธไว้ต่อกรกับรัฐบาลทหารพม่า ได้แก่ กลุ่มว้า กลุ่มกองทัพพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยแห่งชาติ (เอ็นดีเอเอ) และกลุ่มกองทัพรัฐฉาน (เอสเอสเอ) และกลุ่มของพันโทยี่เซก็เป็นหนึ่งในสามกลุ่มนี้และตัวพันโทยี่เซยังเป็นที่ต้องการตัวเป็นอย่างมาของตำรวจไทย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและคดีอื่นเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่อันนำมาซึ่งการก่ออาชญากรรมต่างๆ ขึ้นและเป็นผลสืบเนื่องมาจากยาเสพติดของกลุ่มนี้

พันโทยี่เซเป็นผู้ทรงอิทธิพลในเผ่ามูเซอดำและเป็นหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพในตามแนวชายแดนรายใหญ่และมีอาวุธอยู่ในครอบครองและป็นกองกำลังติดอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะต่อกรกับทางรัฐบาลเมียนมาร์ กองกำลังของพันโทยี่เซเป็นกองกำลังที่อยู่นอกกฎหมายในเมียนมาร์เนื่องจากนี้ยังได้รับการช่วยเหลือจากนักการเมืองในพรรคร่วมรัฐบาลและแน่นอนธุรกิจมืดพวกนี้มีทั้งที่เป็นของนักการเมืองและเครือญาติเองและที่เป็นของลิ่วล้อ หัวคะแนน หรือกลุ่มทุนที่นักการเมืองคนนั้นให้การอุปถัมภ์ค้ำชู ให้ความคุ้มครอง ถ้าถูกจับนักการเมืองก็จะใช้บารมี จึงทำให้กลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้ยังคงมีอยู่และยากที่รัฐจะต่อกรกับกลุ่มเหล่านี้หรือกองกำลังของพันโทยี่เซ เหตุการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นบทบาทสำคัญของรัฐเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มหรือขบวนการค้ายาเสพเหล่านี้เติบโตอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐเมียนมาร์ถึงแม้ว่าจะมีการออกมาชี้แจงถึงการแก้ปัญหาแต่ก็ยังเห็นว่าปัญหาที่แก้นั้นเป็นการแก้ที่ปลายเหตุมิใช่ต้นเหตุเลยทำให้กลุ่มอาชญากรรมนี้ดำเนินกิจการผลิตยาเสพติดส่งขายในอาเซียนได้อยู่ในปัจจุบัน
**หมายเหตุ ในบางกรณี เป็นสื่อกลางในการรวบรวมบทความ และนำเสนอข้อมูลที่มีอยู่แล้วในสื่อต่างๆ โดยเราจะอ้างอิง ให้เครดิต ถึงแหล่งที่มาในทุกๆ ครั้งไป

ด่วน!!! รู้พิกัด เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ ไม่ได้อยู่พม่าแล้ว! แต่ชาวเน็ตเห็นคาตา! หนีไปกบดานที่นี่? ยังไงก็ไม่รอด!!

 พูดเลยว่าเห็นแล้วดิฉันขนลุกหนักมาก! กับการเป็นนักสืบโคนันน้อยของชาวเน็ต! ที่ตอนนี้รู้แล้วว่า เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพอยู่ที่ไหน? ตามมาดูกันเร๊วววววววว!!

 และจากตามข่าวที่แว่วมาว่า เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ หนีไปกบดานอยู่ที่ แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า แต่บอกเลยชาวเน็ตเถียงขาดใจว่าไม่ใช่!! เพราะ เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ โป๊ะแตกหลักฐานเองกับมือว่าเธออยู่ที่นี่!! โดยภาพชูสองนิ้วที่ เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ โพสต์ลงเฟซบุ๊กของเธอเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 หลังจากที่ได้ฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม แล้ว ป้ายโฆษณาที่ติดไว้ตามถนนที่ เปรี้ยว ถ่ายภาพออกมานั้นเป็นภาษาจีน! แถมอีกภาพของเธอยังขึ้นสถานที่ว่าอยู่ที่ หนานจิง ประเทศจีน อีกด้วย พูดเลยต้องดูค่ะ!

ที่มา : jarm.com

ผิดถูกต้องว่าตามกฎหมาย!!! “บิ๊กหมาย” พูดถึงแพท ทุกคนล้วนมีพ่อแม่หมด แถมงานนี้เผย ดาราไฮโซเอี่ยวเพียบ(มีคลิป)

จากกรณีที่สาวแพท ณปภา ถูกสอบสวนเกี่ยวกับเงินฝากธนาคารจำนวนกว่า 10 ล้านบาท หลังจากที่สามีของสาวแพท  หรือหนุ่ม เบนซ์ เรซซิ่ง โดนข้อหาฟอกเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ สาวแพท สามารถชี้แจงรายละเอียดของที่มาเกี่ยวกับจำนวนเงินฝากธนาคารกว่า 10 ล้านบาท ได้หมดแต่ ยกเว้นเงินฝากจำนวน 1 ล้าน 9 แสนบาท ที่ไม่สามารถชี้แจงได้  โดยสาวแพทนั้นได้ อ้างว่าเป็นเงินที่ได้รับการโอนจากนายอัครกิตติ์ ซึ่งตนนั้นได้โอนคืนไปให้สามีและ 4 แสนบาท ภายหลังสาวณปภาก็ได้นำเงินสดจำนวน 1 ล้าน 5 แสนบาท มอบให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เพื่ออายัดไว้ก่อนเบื้องต้น

จากการชี้แจงที่ผ่านมาของนางสาวแพท ณปภาเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเชื่อว่า นางสาวณปภา น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับนายอัครกิตติ์ จึงยื่นขออำนาจศาลออกหมายจับนางสาวณปภาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา

และวันที่ 11 พ.ค.2560 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ออกหมายเรียก “แพท ณปภา ตันตระกูล” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบเพื่อการฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติฟอกเงิน พุทธศักราช 2542 ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น. หลังจากที่พบหลักฐานชัดเจนว่าสาวแพทนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองเงินจากนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง แต่สาวแพทกลับไม่ได้มาตามหมายเรียกดังกล่าว  พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกครั้งที่สอง ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น.หากไม่เดินทางมาตามกำหนด เตรียมขออนุมัติศาลออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป

และเมื่อวันที่ (15 พ.ค 60) เวลา 09.00 น. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ให้สัมภาษณ์กรณี แพท ณปภา ตันตระกูล เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ว่า กรณีแพท ณปภาเป็นตัวอย่างการทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่รู้ว่าอะไรเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเงิน ไม่ได้โทษว่าแพทผิด แต่กฎหมายบอกว่าทำไม่ชอบ ดังนั้นแพท ณปภา มีหน้าที่อย่างเดียวคือไปชี้แจงในศาล ศาลจะให้ความเมตตาระดับไหนอยู่ที่ศาล ซึ่งตำรวจมีหน้าที่นำเสนอกฎหมายสู่อัยการและศาล

พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามวันนี้ ทาง ปส. ต้องแจ้งข้อกล่าวหาแพท ณปภา โดยเรื่องการฟอกเงินมี 2 พ.ร.บ. คือ ของ ปปง.และปปส. โดยการฟอกเงินของ ปปง.คือ ฟอกเงินยาเสพติด หากแพท ณปภา ยอมรับจำนวนเงินดังกล่าวว่าได้มาอย่างไรก็ไม่ต้องถึงขั้นตอนการแจ้งข้อหา

ส่วนขั้นตอนของ ปส. เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาไม่เคยให้ใครประกันตัว โดยจะส่งฟ้องศาลต่อ ซึ่งแพท ณปภา ต้องไปประกันตัวที่ศาล ถ้าแจ้งข้อกล่าวหาวันนี้ วันนี้ก็เป็นผู้ต้องหา แต่ในทางกฎหมายแพท ณปภา ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนเบนซ์ เรซซิ่ง รอเวลาฝากขังให้ครบ ส่วนของแพท ณปภา เตรียมสรุปแล้วรอเอกสารยืนยันจากทางธนาคารว่าเงินในบัญชีดังกล่าวเชื่อมโยงกันจริง

ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ณปภา ตันตระกูล ด้วยกัน 2 ข้อกล่าวหา คือ 1.ฐานสมคบคิดกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และ 2.ร่วมกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งในทางกฎหมายก็ถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ทั้งนี้ หากนางสาวณปภา หรือแพท ยอมรับตั้งแต่แรกว่ามีการรับเงิน 1 ล้าน 9 แสนบาท


ด้านดาราสาว “แพท  ณปภา ตันตระกูล”  เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันฟอกเงินแะสมคบเพื่อการฟอกเงิน ตามที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกครั้งที่ 2 หลังพบข้อมูลธุรกรรมการเงินเชื่อมโยงกับ นายอัครกิตติ์ สามี โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆต่อสื่อมวลชน และเข้าไปภายในอาคารเพื่อพบพนักงานสอบสวนทันที


ทางด้านนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความส่วนตัว ระบุว่าในวันนี้ ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 5 แสนบาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราว แพท ณปภา ในชั้นฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก และหากในอนาคตมีการแจ้งกล่าวหาสมคบค้ายาเสพติด นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ และนายอาคม ยังนำหมายเรียกมาแสดงต่อสื่อมวลชน ซึ่งในหมายระบุเพียงว่าให้มารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงินเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณารายละเอียดของหมายเรียกตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีการระบุผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา และเหตุผล เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบรายละเอียดและเตรียมตัว จึงต้องรอฟังรายละเอียดจากพนักงานสอบสวนในวันนี้ก่อน


ล่าสุดวันที่( 16 พ.ค.60) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) เตรียมพิจารณากรณีนางสาวณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ดาราและพิธีกรชื่อดัง ที่ถูกนำตัวไปฝากขังและศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อวานนี้(15 พ.ค.) โดยป.ป.ส.จะพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหรือไม่


(คลิป)
เพิ่มเติมที่:http://www.politic.zocialx.com/23397