อายยูเอ็นมั้ย? “บิ๊กตู่”สั่งอย่าให้มีอีก ทั้งสาวทั้งแก่นุ่งกระโจมอก-อาบน้ำประชดกลางถนน

 เมื่อวันที่ 30 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบนโยบายในการสัมมนาเสริมสร้างความรู้และธรรมาภิบาลของกรรมการรัฐวิสาหกิจ นายกฯ กล่าวช่วงหนึ่งถึงกรณีน.ส.อธิชา กุศลตระกูลพัฒน์ อายุ 22 ปี เด็กสาวชาวกะเหรี่ยงที่โพสต์รูปอาบน้ำกลางถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อที่บ้านตีนธาตุอ.แม่ระมาด จ.ตากเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ว่า ภาพผู้หญิงนุ่งกระโจมอกอาบน้ำกลางถนนภาพนั้นไปถึงองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)แล้ว หลายประเทศนำเอาไปเป็นแบบอย่าง แล้วบอกว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแลให้ดีกว่านี้
 “อายเขาไหมล่ะ ประชาชนเข้าใจกันหรือไม่ว่าถนนเส้นนั้นเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของใครก็เป็นของท้องถิ่น เอาเงินมาจากไหนก็เอาเงินมาจากภาษีของตัวเอง แล้วทำกันได้ไหม บางอย่างทำได้ บางอย่างทำไม่ได้บางที่ทำดี บางที่ทำไม่ดีเขาต้องปรับปรุงตัวเองทุกภาคส่วนต้องพัฒนารวมถึงรัฐวิสาหกิจก็ต้องมีการพัฒนา ประชาชนก็ต้องมีการปรับปรุงไปด้วย”
 “อย่าให้มีอีก คราวหน้าจะนุ่งชุดว่ายน้ำอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็ น้ำมันลึกขึ้นไง แหม ทำกันเป็นเรื่องสนุกไปได้ ผมก็สงสารเห็นใจ ป้าๆ ยายๆ คนแก่เขาต้องกันให้เห็นว่าตั้งแต่สาวจนแก่ก็ยังเป็นแบบนี้อยู่ มันทำแบบนั้นไม่ได้ เราต้องอธิบายว่าให้ท้องถิ่นเข้ามาพูดคุยผมไม่ได้รังเกียจใครเลยเพราะท้องถิ่นเป็นกลไกที่ประชาชนอยู่ใกล้มากที่สุด เขาสามารถเป็นตัวเองให้พวกเราได้ การทำงานต้องลงไปสู่ข้างล่าง จะต้องมีการชี้แจงด้วยตัวของท่านเอง จะดีกว่าใครคนอื่นชี้แจง ต้องชี้แจงว่าอดีต ปัจจุบันอนาคตประชาชนจะได้อะไร วันนี้อาจไม่ได้ วันหน้าอาจไม่ได้”
ทีมา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_28237

อยากรวยลองเลย! หยอดปุก 10 บาท 52 วัน คุณจะมีเงินเก็บหลักหมื่นแล้ว มาดูวิธีกัน

 วิธีออมเงินง่ายๆ เพียงประหยัดเงินวันละ10บาท ภายใน52 วัน คุณจะมีเงินเก็บ 1หมื่นบาท

เป็นที่แพร่หลายในโซเชียลมีเดียกับวิธีออมเงินภายใน1ปี 52 สัปดาห์ เพียงคุณออมเงินในสัปดาห์แรก 10 บาท หลังจากนั้นสัปดาห์ต่อไปให้เพิ่มขึ้นมากกว่าสัปดาห์แรกอีก10บาท จากเศษเงินก็สามารถกลายเป็นเงินหลักหมื่นได้ด้วยวิธีง่ายๆ
แต่คุณอาจคิดว่าหนึ่งปีนั้นนานเกินไป ลองลดให้เหลือเพียง 52 วัน  โดยใช้วิธีประหยัดเงินรายจ่ายในแต่ละวัน
วิธีนี้มีข้อดี3ข้อ


1.ตั้งเกณฑ์ที่ง่าย ความอยากทำก็จะเพิ่มสูงขึ้น

2.ยอมรับหากตัวเองใช้เงินฟุ่มเฟือย และตั้งเป้าหมายที่จะออมเงินในจำนวนที่มากๆเพราะหากไม่ตั้งใจออมเงินก็จะทำไม่ถึงเป้าหมาย

3.เมื่อทำถึงเป้าหมายแล้วก็จะเริ่มอยากตั้งเป้าหมายใหม่ต่อไป

เพียงคุณใช้วิธีนี้ติดต่อกัน 7 ครั้ง ภายใน 1 ปีก็สามารถมีเงินเก็บได้เกือบหนึ่งแสนบาท

หากคิดว่า10บาทยากไปนิด ให้ลดลงมาเริ่มที่ 5 บาท ความกดดันจะทำให้คุณอยากทำให้ถึงเป้าหมาย ลองชวนเพื่อนๆของคุณมาใช้วิธีนี้ออมเงินกันนะ ภายใน52วันแข่งกันออมเงินก็น่าสนุกดีนะคะ

ข้อมูลจาก http://www.liekr.com/post_137502.html

นอนเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ สัญญาณเตือน 7 โรค ต่อไปนี้...

นอนขี้เซา..ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นอนเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ สัญญาณเตือน 7 โรค ต่อไปนี้...

หลายๆ คนน่าจะมีความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเวลาบ่ายๆหลังทานอาหารกลางวันอิ่มๆ โดยเฉพาะวันไหนที่กินอิ่มมากๆ ยิ่งทำให้อาการนี้กำเริบหนักมากไปกว่าเดิม อาการที่เป็นอยู่นี้สื่อถึงอะไรได้บ้าง โรคใดบ้างที่คุณอาจจะเป็นได้ มาลองหาคำตอบกันสักหน่อยดีกว่า
1. โรคนอนไม่หลับ
อาจเป็นเพราะคุณนอนดึกมากๆ ทำงานหนักมากๆ งานเยอะมากๆ หรือเครียดมากๆ จนนอนไม่หลับ ซึ่งการนอนไม่หลับแบบสะสม ทำให้วันต่อๆ มาเกิดอาการง่วงนอนตอนกลางวันได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ควรคลายเครียดสักหน่อย ลดการทำงานในตอนกลางคืนลงเสียบ้าง หรือปรึกษาแพทย์สักหน่อยก็ได้ อะไรๆจะได้ดีขึ้น

2. โรคอ่อนเพลีย
เมื่อนอนไม่หลับติดต่อกันนานๆก็จะเกิดเป็นโรคอ่อนเพลียขึ้นได้ เพราะโรคนี้เป็นขั้นกว่าของโรคนอนไม่หลับ เมื่อร่างกายสะสมความอ่อนเพลียหนักขึ้นเรื่อยๆ โรคนี้ก็จะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ

นอกจากการนอนไม่พอแล้ว โรคนี้ยังอาจมีสาเหตุมาจากการบริโภคอาหารบางประเภท เช่น อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลมากเกินไปด้วย การที่ร่างกายได้รับอาหารเหล่านี้มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความเพลีย อ่อนล้า ง่วงนอน ความจำไม่ค่อยดี ปวดหัว ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว และนอนหลับไม่สนิทได้

3. โรคเบาหวาน
การบริโภคแป้งและน้ำตาลสูงๆ ทำให้เกิดเป็นโรคล้าเรื้อรังได้ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจากนี้ ยังเป็นบ่อเกิดของโรคเบาหวานได้อีกด้วย เพราะการที่เลือดมีปริมาณน้ำตาลสูงๆ ก็จะทำให้เกิดเป็นอาการง่วงนอนขึ้นโดยทันที เพื่อเตือนให้ร่างกายทราบว่า ขณะนี้ร่างกายกำลังอยู่ในภาวะน้ำตาลในเลือดสูงแล้ว หากยังฝืนทานต่อไปเรื่อยๆจะนำไปสู่โรคเบาหวานได้ในอนาคตอันใกล้

4. โรคลมหลับ
โรคนี้หมายถึง อาการง่วงนอนอย่างมากในตอนกลางวัน แต่กลับตาสว่างในตอนกลางคืน จะข่มตาหลับก็หลับไม่สนิท หรือพอได้นอนปุ๊บก็จะฝันทันที ทำให้คุณภาพการนอนแย่ลง และส่งผลให้คุณภาพชีวิตแย่ลงเรื่อยๆด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการสมองช้า ขาดสมาธิ สุขภาพจิตเสีย หรือแม้กระทั่งการเป็นอันตรายต่อการใช้ชีวิต

5. โรคโลหิตจาง
ผู้หญิงเป็นเพศที่มีโอกาสเป็นโรคโลหิตจางได้ง่าย เพราะส่วนหนึ่งเลือกทานอาหารและต้องสูญเสียโลหิตจากการมีประจำเดือน ซึ่งอาจนำมาสู่การอ่อนเพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่าย เชื่องช้า เซื่องซึม และไม่สดใสในที่สุด

6. เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หรืออวัยวะส่วนอื่นๆ ในร่างกาย
การสูญเสียเลือดในปริมาณมากๆ บ่อยๆ เช่น มีเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร หรืออาจจะสูญเสียเลือดจากการเป็นโรคริดสีดวงทวารบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุของอาการอ่อนเพลีย หรืออยู่ในภาวะโลหิตจางเรื้อรัง เลยแสดงอาการเหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมง่าย อ่อนแรง และง่วงหงาวหาวนอนได้เช่นกัน

7. โรคนอนเกิน (Hypersomnia) หรือ การหลับเกินพอดี
โรคสุดท้ายเป็นโรคที่เกิดในคนขี้เซาเป็นหลัก โดยคนพวกนี้มักจะรักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งพักผ่อนด้วยการนอนมากเท่าไรก็ยังรู้สึกไม่พอ เมื่อนอนติดต่อกันมากๆ จะทำให้ผู้ป่วยดูเฉื่อยฉา ซึมเซา ไร้ชีวิตชีวา หรือไม่ค่อยทานอาหาร เพราะเอาเวลาไปนอนซะหมด แต่กลับพบอาการอ้วนได้ง่าย เนื่องจากการนอนเยอะเกินไปอาจมีธาตุเครียดเข้ามาผสม

อาการง่วงมากเกินไปนี้หากเป็นติดต่อกันจนติดเป็นนิสัย จะถือเป็นสิ่งที่ผิดปกติที่ควรรีบแก้ไข โดยคนที่มีภาวะนี้จะเป็นคนที่ตื่นยากมาก หรือเมื่อตื่นแล้วก็ยังรู้สึกว่าต้องการนอนต่อไปอีก และระหว่างวันก็ต้องการที่จะงีบหลับหลายๆ ครั้ง

นอกเหนือจากอาการง่วงตลอดเวลาแล้ว ผู้ป่วยยังมีอาการหรือความรู้สึกแปลกๆเกิดขึ้นด้วย ได้แก่

1. หงุดหงิดง่าย เครียดได้ง่าย

2. วิตกกังวล หดหู่ เศร้าใจ

3. ความคิดอ่านไม่แล่น สมองเฉื่อยชา สมองล้า กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา

4. ความจำไม่ดี ไม่เอาการเอางาน

5. มีอาการซึมเศร้า เนื่องจาก การนอนมากๆ ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน โดยเฉพาะ “เคมีอารมณ์ สารความสุข” จำพวก “เซโรโทนิน(Serotonin)” และ “เอนดอร์ฟิน(Endorphin)” จะลดต่ำลง

6. กระดูกพรุน ข้อเสื่อม เพราะติดนอนไม่อยากลุกไปไหน ทำให้ความคล่องตัวเริ่มหายไป

7. น้ำหนักเกิน เพราะวันๆ เอาแต่กินกับนอน ไม่ไปไหน

การนอนอย่างพอดีเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก แต่ถ้าเกินคำว่าพอดีไ ก็จะทำให้เกิดอันตรายอย่างที่กล่าวไปได้ แล้วคำว่าพอดีควรเป็นอย่างไร นี่อาจเป็นคำถามหนึ่งในใจของคุณ ซึ่งคำว่าพอดีที่เรากล่าวถึงนี้ อยู่ที่การนอนประมาณวันละ 6-8 ชั่วโมง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและกิจกรรมที่แต่ละบุคคลทำระหว่างวันด้วย

ผู้ที่มีชั่วโมงการนอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคความจำเสื่อมมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าคุณนอนเยอะไป ถึงแม้ว่ายังมีอายุยังน้อยอยู่ แต่อายุสมองของคุณอาจจะแก่มากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งย่อมส่งผลให้ความคิดความอ่านไม่โลดแล่นเหมือนกับตอนที่ยังเป็นเด็กหรือมีอายุน้อยอยู่ได้

จากที่เรากล่าวไปทั้งหมดนี้ ก็อยากจะเตือนท่านผู้อ่านทุกท่านว่า “อย่าปล่อยให้การนอนกลับทำร้ายคุณอีกต่อไปเลย” หากคุณนอนน้อยหรือมากเกินไปย่อมส่งผลโดยตรงกับสุขภาพของคุณทั้งสิ้น หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้ ก็ลองไปพบแพทย์เพื่อช่วยกันหาแนวทางการแก้ไขดู เพื่อให้การนอนหลับพักผ่อนของคุณเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดนั่นเอง

ที่มา... สุขภาพน่ารู้

หมอจีน เผย 19 สิ่งที่ควรทำและห้ามทำ ถ้าทำได้รับรองสุขภาพดี ไม่มีโรคร้าย

หมอจีน เผย 19 สิ่งที่ควรทำและห้ามทำ ถ้าทำได้รับรองสุขภาพดี ไม่มีโรคร้าย


หมอหวิ๋จงเสี่ยน เน้นให้ช่วยส่งต่อข้อความที่ได้รับนี้ อย่างน้อย จะสามารถช่วยชีวิตคนหนึ่งคนได้ คำแนะนำให้กินมันเทศ โดยเฉพาะที่มีสีเหลืองหรือสีม่วง สามารถต้านมะเร็ง และการดื่มน้ำมะนาวร้อนโดยไม่เติมน้ำตาลก็ต้านมะเร็งเช่นกัน

เรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น บางครั้ง เราก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าจะ เกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆนั้น เราสามารถเลือกอาหารการกินเพื่อดูแลสุขภาพได้ หมอหวิ๋จงเสี่ยน ที่เป็นแพทย์แผนจีน ได้คำแนะนำให้กินมันเทศ โดยเฉพาะที่มีสีเหลืองหรือสีม่วง สามารถต้านมะเร็ง และการดื่มน้ำมะนาวร้อนโดยไม่เติมน้ำตาล ก็ต้านมะเร็งได้เช่นกัน แพทย์แผนจีนแนะ วิธีปฏิบัติตัว 19 อย่าง เพื่อหลีกเลี่ยงโรคร้าย

หมอ หวิ๋จงเสี่ยน เน้นให้ช่วยส่งต่อข้อความที่ได้รับนี้ จะสามารถช่วยชีวิตคนหนึ่งคนได้ คำแนะนำให้กินมันเทศ โดยเฉพาะที่มีสีเหลืองหรือสีม่วง สามารถต้านมะเร็ง และการดื่มน้ำมะนาวร้อนโดยไม่เติมน้ำตาล ก็ต้านมะเร็งได้เช่นกัน

1. งดอาหารมื้อดึก เพราะจะเพิ่มโอกาส เป็นมะเร็งกะเพาะ

2. สัปดาห์หนึ่งไม่ควรกินไข่มากกว่า 4 ฟอง

3. เนื้อสะโพกไก่ กินมาก เป็นเหตุให้เป็นโรคมะเร็ง

4. ไม่ควรกินผลไม้หลังอาหาร ควรกินผลไม้ ก่อนมื้ออาหาร

5. ขณะมีรอบเดือน ไม่ควรดื่มชา ให้กินอาหาร ที่ช่วยบำรุงเลือดแทน

6. น้ำเต้าหู้ไม่ควรใส่ไข่ และไม่เติมน้ำตาล

7. เมื่อท้องว่าง ไม่ควรกินมะเขือเทศ ควรกินหลังอาหาร

8. ดื่มน้ำธรรมดาก่อนมื้อเช้าทุกวัน เพื่อป้องกัน โรคนิ่วในกะเพาะ

9. ก่อนนอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง งดทานอาหาร

10. งดดื่มชาใส่นม เพราะไขมันในนมข้น และน้ำตาล ก่อให้เกิดโรคเบาหวาน และ โรคความดันโลหิตสูง

11. ไม่ควรกินขนมปัง หรือซาลาเปา ที่เพิ่งนึ่งร้อนๆ จากเตานึ่งหรือเตาปิ้ง

12. การชาร์จโทรมือถือ ควรห่างจากตัว ไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร และไม่ควรอยู่ใกล้ที่นอน ขณะนอนหลับ

13. ดื่มน้ำ 10 แก้วต่อวัน ป้องกันมะเร็งกะเพาะ

14. กลางวัน ดื่มน้ำให้มาก และดื่มให้น้อย ตอนกลางคืน

15. ไม่ควรดื่มกาแฟ มากกว่า 2 แก้วต่อวัน จะทำให้ นอนไม่หลับ และท้องอืด

16. ของมันหรือของทอด กินมากทำให้ เลือดคั่ง ที่กะเพาะลำไส้ เป็นเหตุให้ง่วงซึม อยากนอนบ่อย

17. หลัง17.00 น ต้องรับประทานอาหารให้น้อยลง

18. 10 สิ่งที่ควรทานกิน: ปลาทะเลน้ำลึก กล้วย เกรฟฟุต ขนมปังโฮลวิต ผักโขม กระเทียม ฟักทอง นมพร่องมันเนย เนื้อไก่ ลูกพีช

19. นอนน้อยกว่า 8 ช.ม.ต่อวัน ทำให้สมองเสื่อม การงีบตอนพักเที่ยง ทำให้แก่ช้า

– น้ำมะนาวร้อน ดีต่อสุขภาพ และชีวิตยืนยาว น้ำมะนาวร้อน ทำลายล้างเซลล์มะเร็ง ฝานมะนาวบางสัก 2-3 ชิ้นในถ้วย แล้วเติมน้ำร้อน ทำเป็นน้ำด่าง ดื่มเป็นประจำทุกวัน ดีต่อสุขภาพ

– รสขมในน้ำมะนาวร้อน เป็นสารต้านมะเร็ง ส่วนน้ำมะนาวเย็นนั้น มีเพียงวิตามินซี ไม่สามารถป้องกันมะเร็งได้

– น้ำ มะนาวร้อน ช่วยระงับการเติบโตของก้อนเนื้องอก การทดลองพิสูจน์ว่า น้ำมะนาวร้อนมีผลในการป้องกันมะเร็ง การบำบัดวิธีนี้ ทำลายเซลล์ก้อนเนื้อร้ายโดยไม่มีผลต่อเซลล์ในร่างกาย

– กรดมะนาว และสารโพลีฟีนอล ในน้ำมะนาวช่วยปรับระดับความดันโลหิต เส้นเลือดอุดตัน ปรับการไหลเวียนของกระแสเลือดดีขึ้น ลดการแข็งตัวของเลือด
http://www.share-si.com/2016/09/19_29.html

"หวัดดี" ฉันคือตับของคุณ ให้ฉันเล่าให้คุณฟังว่า ฉันรักคุณมากเท่าใด 9 ข้อ นะครับ....

“หวัดดี” ฉันคือ “ตับ” ของคุณ วันนี้ฉันมีอะไรจะมาเล่าให้คุณฟัง…

"หวัดดี" ฉันคือตับของคุณ
ให้ฉันเล่าให้คุณฟังว่า ฉันรักคุณมากเท่าใด 9 ข้อ นะครับ....
1. ฉันสะสมธาตุเหล็กสำรอง รวมทั้ง วิตามิน และ แร่ธาตุ ต่างๆ ที่คุณต้องการ หากไม่มีฉัน คุณก็จะไม่มีเรี่ยวแรงที่อยู่ต่อไป

2. ฉันผลิตน้ำย่อย สำหรับย่อยอาหารให้คุณ หากไม่มีฉัน คุณก็สูญเสียอาหาร จนไม่มีอะไรเหลืออยู่

3. ฉันทำหน้าที่ล้างพิษของพวกสารเคมีที่คุณมอบให้ฉัน ไม่ว่าจะเป็น แอลกอฮอล์ เบียร์ ไวน์ ยาต่างๆ(ที่มี และไม่มีใบสั่งของแพทย์) รวมทั้งบรรดาสิ่งผิดกฏหมายทั้งหลาย หากไม่มีฉันแล้วนิสัยไม่ดีของคุณ ก็จะฆ่าคุณไปแล้ว

4. ฉันเก็บพลังงานเหมือนแบตเตอรี่ โดยสะสมน้ำตาล(คาร์โบไฮเดรท, กลูโคส และไขมัน) ไว้ให้คุณ เมื่อคุณต้องการมัน หากไม่มีฉัน ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะลดลงต่ำมาก จนทำให้คุณล้มพับไป

5. ฉันสร้างเลือดให้ระบบต่างๆ ของคุณ ก่อนที่คุณจะเกิดเสียอีก หากไม่มีฉันแล้วก็คงจะไม่มีคุณอยู่ที่นี่

6. ฉันผลิตโปรตีนใหม่ที่ร่างกายของคุณต้องการ เพื่อการมี สุขภาพดีและเจริญเติบโต
หากไม่มีฉันแล้วคุณก็จะไม่เจริญเติบโตอย่างที่ควร

7. ฉันกลั่นกรองสารพิษจากอากาศ ไอเสียรถยนต์ และสารเคมี ที่คุณหายใจเข้าไป หากไม่มีฉันแล้วคุณก็จะเหมือนถูกวางยาพิษโดยมลภาวะเหล่านั้น

8. ฉันผลิตสารทำให้เลือดแข็งตัว ถ้าคุณบังเอิญไปโดนอะไรบาด หากไม่มีฉันแล้วคุณจะต้องตายเพราะเลือดไหลไม่หยุด

9. ฉันคอยต่อสู้ ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคต่างๆ โจมตีคุณ ไม่ว่าจะเชื้อหวัด หรือ ไข้หวัดใหญ่
อะไรก็ตาม ฉันจะน็อคมันให้ตายหมด หรือ ไม่ก็ทำให้มันอ่อนแรงลง หากไม่มีฉันแล้วคุณก็เหมือนเป้านิ่ง รอให้สารพัดโรคโจมตี

ดูซิว่า ฉันรักคุณแค่ไหน...
แล้วคุณล่ะ รักฉันบ้างไหม ?

ขอให้ฉันบอกวิธีง่ายๆ ที่จะ รัก ฉัน , ตับ ของคุณ อย่ากดฉันให้ต้องจมลงในน้ำเบียร์ แอลกอฮอล์ หรือ ไวน์ เลย สำหรับบางคนแล้วเพียงแก้วเดียว ก็ทำให้ฉันเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิต
ระวังบรรดา " ยา " ทั้งหลาย
ยาทุกอย่างมาจากสารเคมี

และเมื่อคุณเอามันมาผสมกันเข้า โดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ มันก็กลายเป็นยาพิษ ที่สามารถทำลายฉันได้อย่างดีทีเดียวละ ฉันเป็นแผลเป็นง่าย เมื่อเป็นแล้ว เป็นอย่างถาวรเสียด้วย บางครั้งยาก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่การกินยาเกินความจำเป็น เป็นนิสัยไม่ดี บรรดาสารเคมีเหล่านั้น สามารถทำลายตับได้
จงระวังบรรดากระป๋องสเปรย์ทั้งหลาย จำไว้ว่า ฉันจะต้องล้างพิษทุกอย่างที่คุณหายใจเอาเข้าไปด้วย ดังนั้น เวลาคุณทำความสะอาดอะไรด้วยพวกสเปรย์ ต้องให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือสวมหน้ากากด้วย อันตรายเพิ่มเป็นสองเท่า สำหรับพวกสเปรย์

ฆ่าแมลง ฆ่าเชื้อรา สี และสารเคมี ระวังว่าคุณหายใจเอาอะไรเข้าไป
ระวังว่าอะไรโดนผิวหนังคุณด้วย ยาฆ่าแมลงที่คุณฉีดต้นไม้ พุ่มไม้นั้น สามารถผ่านผิวหนังของคุณเข้ามาโจมตีฉันได้ด้วย ป้องกันผิวหนังของคุณโดยการสวมถุงมือ ใส่เสื้อแขนยาว หมวก หน้ากากทุกครั้งที่คุณฉีดยาฆ่าแมลง
คำเตือน

ฉันไม่สามารถและไม่บอกคุณด้วยว่าฉันประสพกับปัญหา จนกระทั่งเกือบจะถึงวาระสุดท้ายของทั้งฉันและคุณเสียแล้ว จงจำไว้ว่า ฉันไม่ใช่ประเภทขี้บ่น ให้ฉันทำงานหนักเกินไปโดยอัด ยา แอลกอฮล์ และ บรรดาอาหารขยะ สามารถทำร้ายฉันได้! นี่อาจเป็นการเตือนครั้งเดียวที่คุณจะได้รับ

โปรดฟังคำแนะนำฟรี
พาฉันไปให้คุณหมอตรวจ
การตรวจเลือด สามารถบอกปัญหาบางอย่างได้ ถ้าฉันยังอ่อนนุ่ม และไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ แสดงว่าฉันยังดีอยู่ ถ้าคุณหมอสงสัย การอัลตร้าเซาวนด์ หรือ ซีที แสกน ช่วยได้

อายุของฉัน คืออายุของคุณ ขึ้นอยู่กับว่า คุณดูแลฉันดีแค่ไหน
คราวนี้คุณรู้แล้วละซี ว่าฉันรักคุณแค่ไหน ได้โปรดดูแลฉันหน่อยด้วยความรักและผูกพัน จากเพื่อนร่วมชีวิตผู้สงบเงียบ และคู่รักนิรันดร ของคุณ

ฉันเอง คุณตับ โปรดส่งต่อให้คนที่คุณรักด้วยครับ และขอขอบคุณข้อมูลจาก "ชมรมคนรักสุขภาพ"

ขอบคุณเนื้อหาและที่มาจากคุณ นพดล จันทร

สิ่งควรรู้ก่อนขึ้นเตียง! สำคัญมาก บางคนอาจหัวใจก็หยุดเต้นได้

สิ่งควรรู้ก่อนขึ้นเตียง

มีคนจำนวนมาก กลางวันไม่เป็นอะไร แต่พอกลางคืน กลับเสียชีวิต เนื่องจากกลางคืนลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำเร็วเกินไป
การลุกจากที่นอนอย่างกระทันหันทำให้ขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง ความดันโลหิตลดต่ำ จนวิงเวียนล้มลงไป บางคนถึงกับกระดูกกะโหลกศีรษะแตก
ส่วนบางคน หัวใจมีปัญหา กลางวันเต้นเป็นปกติ แต่กลางคืนกลับขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หัวใจหดตัวเนื่องจากลุกจากที่นอนอย่าง กระทันหัน ความดันโลหิตลดต่ำลงขาดเลือด ไปเลี้ยงสมอง ❤หัวใจก็หยุดเต้นได้ ถึงแม้จะไม่เสียชีวิตก็กลายเป็นโรคอัมพฤกษ์ไปก็มี
นักวิทยาศาสตร์ มักจะย้ำประโยคหนึ่งอยู่เสมอๆ ว่า


“ครึ่งนาที 3 อย่าง และครึ่งชั่วโมง 3 อย่าง“


วลีนี้เป็นวลีสำคัญ ที่ไม่ต้องเสียเงินหามา แต่ช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ เป็นจำนวนมาก
ครึ่งนาที 3 อย่าง หมายถึง

1.เมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้ว อย่าลุกจากที่นอนในทันที ให้นอนไว้ก่อนครึ่งนาที
2.เมื่อนั่งขึ้นมาก็ให้นั่งอีกครึ่งนาที
3.แล้วเอาขาทอดไว้ที่พื้นอีกครึ่งนาที
ส่วนครึ่งชั่วโมง 3 อย่าง หมายถึง

1. ตื่นขึ้นมาตอนเช้า ควรออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง (หนักเบา แล้วแต่ละบุคคล)
2. ตอนเที่ยง ควรนอนกลางวัน ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ตอนบ่ายจะมีพละกำลังเต็มที่ (เพราะผู้สูงอายุมักจะตื่นนอนแต่เช้า กลางวันจึง ควรพักผ่อนให้มาก)
3. ตอนเย็น ผู้สูงอายุควรเดินช้าๆ สักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ตอนกลางคืนหลับสบาย สามารถลดอัตราการเป็นโรคที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตีบและความดันโลหิตสูงได้
เพราะว่าความรู้นี้ สอนคนได้ ช่วยคนก็ได้
4วิธีง่ายๆในการปฐมพยาบาลดังข้างล่างนี้

✔1.สำลักอาหาร
วิธีจัดการ----แค่ยกมือขึ้นไป
✔2 ตกหมอน
คุณเคยตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตัวเองตกหมอนนั้นก็คือปวดคอ ถ้าหากตกหมอน คุณควรทำอย่างไร
ถ้าหากตกหมอน แค่ยกขาขึ้นมา
จับนิ้วโป้งของเท้าค่อยๆนวดและหมุนตามเข็มนาฬิกาหรือทวนเข็มนาฬิกา
✔3. ขาเป็นตะคริว
เวลาขาซ้ายเป็นตะคริว ให้ยกมือขวาขึ้นสูงๆ เวลาขาขวาเป็นตะคริว ให้ยกมือซ้ายขึ้นสูงๆ จะรู้สึกสบายผ่อนคลายทันที
✔4. ขาชา
ถ้าขาซ้ายชาสบัดมือขวาจาก.ช้าไปหาเร็ว ถ้าขาขวาชาก็สบัดมือซ้ายจากช้าไปเร็ว

CR Sasithorn Charatruaidi

ทำบุญไม่ขึ้น ทำอะไรติดๆขัดๆ ลองอ่านี่ดูชีวิตคุณอาจจะเปลี่ยน!

ตั้งใจอ่านให้ดีนะครับ อ่านจบอย่าเก็บไว้คนเดียวช่วยแชร์ให้ด้วย


แพทย์ผ่าตัดโรคหัวใจมือหนึ่ง..เล่าเรื่องประสบการณ์ขอขมา
เจ้ากรรมนายเวรและบทขอขมา
อโหสิกรรม..ว่า ปกติเป็นคนที่สวดมนต์ ไหว้พระก่อนนอน
จะท่องเฉพาะบท “นโมตัสสะ ฯลฯ” กราบ 3 ครั้ง แล้วนอนเลย
แต่เมื่อก่อนปีใหม่ ได้หนังสือสวดมนต์มา ก็เลยได้สวดบท
ขอขมาอโหสิกรรม เจ้ากรรมนายเวร

ตอนสวดครั้งแรก ก็ไม่คิดอะไรมาก คิดแค่ว่า
เป็นบทที่น่าสวดดี หลังจากสวดเสร็จ .คืนนั้น…
ฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุด สีชมพูแดง มานั่งคุยด้วย
เธอบอกว่า เมื่อก่อนโกรธเรามาก แต่มาวันนี้
ไม่โกรธแล้ว พอเราตื่นขึ้นมา เรารู้สึกว่าอิ่มเอมใจ
แบบอธิบายไม่ถูก คุยกับแม่ แม่ว่า คงเป็นเจ้ากรรมนายเวร
เขามาอโหสิกรรมให้ ก็เลยไปเล่าให้เพื่อน สนิทฟัง เพื่อนก็เลย
ขอให้ส่งบทสวด บทนั้นให้ พอเพื่อนเราสวด เธอก็ฝันเห็น
เด็กตัวเล็ก ๆ บอกเธอว่า เขากำลังจะไปเกิด เธอบอกว่า
เธอรู้สึกดีมาก ๆ ก็เลยอยากจะแชร์บท สวดมนต์ให้เพื่อนๆ
เผื่อใครสนใจอยากจะสวดบทอธิฐานขออโหสิกรรม
กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง สัญจิจจะกัมมัง
อะสัญจิจจะกัมมัง ขะมันตุ เม อะโหสิกัมมัง ภะวะตุ เม


กรรมใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
ที่ข้าพเจ้าได้ทำล่วงเกินแก่ผู้ใดทั้งโดยตั้งใจก็ดี
ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ในภพชาติใดก็ตาม ขอให้เจ้ากรรม
นายเวรทั้งหลาย จงโปรดยกโทษ ให้เป็นอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าอย่าได้
จองเวรจองกรรม ต่อกันอีกเลย แม้แต่กรรมใดที่ใคร ๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม ให้ทั้งสิ้น …. ยกถวายพระพุทธเจ้า
เป็นอภัยทาน ขอจงดลใจให้ เขาเหล่านั้น กลับมีเมตตาจิต
คิดเป็นมิตรกับข้าพเจ้า เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรม ต่อกันตลอดไป

ด้วยอานิสงส์…

แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า พร้อมทั้งครอบครัว ตลอดจน…
วงศาคณาญาติ ผู้มีอุปการคุณ ของข้าพเจ้าพ้นจาก
ความทุกข์ยาก ลำบาก เข็ญใจ ความทุกข์อย่าได้ใกล้
ความเจ็บไข้อย่าได้มี ขอให้มีความสุขสวัสดี มีชัย เสนียดจัญไร
และอุปัทวันตรายทั้งหลาย จงเสื่อมสิ้นหายไป
นึกคิดปรารถนาสิ่งใด ที่เป็นไปโดยชอบ
ประกอบด้วยธรรม ขอให้สิ่งนั้น จงพลันสำเร็จ
จงพลันสำเร็จ…จงพลันสำเร็จ เทอญ

นิพพานัง ปัจจะโย โหตุ

**แบ่งปันบุญกุศลนี้ให้คนที่คุณรักและให้กับคนที่รักคุณชีวิตคุณ จะดีขึ้น ทันที

ที่มา  jc-richer

โรงเรียนใหน สอนแบบนี้ด้วยหรีอ???


OMG :O What the hell :@ Totally shocked and angry to see what these kids are learning from their educational institutes. Please share this with your friends and beloved one who have school going children so that they can stop their kids from doing such dirty activities. These activities can destroy the future of Children all over the world.

แชร์ว่อนคลิปสาวยืนถือปืนคุมเชิงให้เพื่อนตบสาวท้อง

คลิปนี้โพสต์โดยเฟซบุ๊ก ชื่อ Alis Sorsa โพสต์คลิปการตบตีทะเลาะวิวาทของหญิงสาวคู่หนึ่ง โดยหญิงฝ่ายหนึ่งตั้งครรภ์ และมีเพื่อนของอีกฝ่าย เป็นหญิงรูปร่างท้วมเสื้อฟ้าเดินถือปืนขึ้นลำ ออกมายืนอยู่ ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังตบกันอยู่
ระบุว่า “คลิปนี้คืออีกคลิปนะคะที่ตบกันเพราะเขามาต่อยหน้าแม่ลิส เคลียร์จบแล้ว แพ้ค่ะ ยอมรับ แต่ทนไม่ได้คะ ตอนจบคลิป มีผู้หญิงเสื้อฟ้าถือปืนออกมาขึ้นลำรอ หมายความว่าไงคะ แค่ตบกันจะเอาถึงตายเลยเหรอ ..เข้ามาห้ามเพราะท้องแล้วเลือดออก จะทนดูเฉยๆได้ไหม…

แต่คนเสื้อฟ้า ดูกันแล้วก็พิจารณากันเอาเอง #ผู้หญิงท้อง#เราเดี่ยวกันแบบใสๆไม่ได้ติดใจหรือคาใจอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ติดใจเสื้อฟ้ามาก ทำไมทำแบบนี้ ไม่เฟี้ยวเลย แชร์วนไปค่ะ ฝากหน่อยค่ะ เสื้อดำนี้คือหนูเองกำลังท้อง ส่วนคนชุดลายมาต่อยหน้าแม่หนูถึงที่ทำงาน โดยไม่มีสาเหตุหรือมูลความจริง หนูเป็นลูกหนูยอมไม่ได้ค่ะ เลยมานัดตบกับคนนี้ หนูตบแพ้คะแต่หนูยอมรับ แต่สังเกตที่คนเสื้อฟ้านะคะ ตอนจบเอาปืนมาขึ้นลำกล้องรอนี้แบบไหน
…นางเดินถือปืนมาขึ้นลำพร้อมยิง คืออะไรช่วยกันแชร์ไปคะ ต่อยแม่ไม่พอยังจะฆ่าลูกอีก ช่วยกันแชร์นะคะ กูพลีชีพเพื่อแม่คะไม่ใช้ผู้ชาย แยกแยะด้วย สู้เพื่อแม่อะรู้จักไหม..”จนทำให้มีการแชร์คลิปดังกล่าวจำนวนมาก ส่งผลให้มีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์รย์กันเป็นจำนวนมาก
https://www.khaosod.co.th/monitor-news/news_18838

ระวัง!! ขับรถป้ายแดง อาจโดนปรับหนักสุดถึง 1 หมื่นบาท!!



ระวัง!! ขับรถป้ายแดง อาจโดนปรับหนักสุดถึง 1 หมื่นบาท!!
ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มักจะเจอกับรถป้ายแดงอยู่เสมอ เพราะยังมีรถใหม่น่าซื้อให้ได้เป็นเจ้าของกันอย่างไม่ขาดสาย

ระวัง!! ขับรถป้ายแดง อาจโดนปรับหนักสุดถึง 1 หมื่นบาท!!
ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็มักจะเจอกับรถป้ายแดงอยู่เสมอ เพราะยังมีรถใหม่น่าซื้อให้ได้เป็นเจ้าของกันอย่างไม่ขาดสาย


แม้ว่าหลายคนจะภูมิใจกับการใช้รถป้ายแดง แต่รู้หรือไม่ว่า ตามกฎหมายแล้วการขับรถป้ายแดงมีข้อห้ามสารพัด ซึ่งหากคุณตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ก็อาจต้องเสียค่าปรับหลักหมื่นโดยไม่รู้ตัว คราวนี้เราจะพาไปรู้จักการขับขี่รถป้ายแดงที่ถูกต้องตามกฎหมายกัน
1.ต้องลงคู่มือป้ายแดงเสมอ

รถป้ายแดงจะมาพร้อมกับสมุดคู่มือประจำรถ ซึ่งการขับรถทุกครั้งจะเป็นต้องลงรายละเอียดให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นชื่อผู้ขับรถ, เวลาใช้รถ, จุดหมายปลายทาง ฯลฯ ซึ่งปกติแล้วตำรวจจะอนุโลมไม่ตรวจเช็คสมุดดังกล่าว แต่อย่าลืมว่าตามกฎหมายแล้วคุณต้องลงเล่มทะเบียนทุกครั้งที่ใช้งาน หากมิเช่นนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 28 และ มาตรา 61 ถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 1,000 บาท หากคุณตำรวจเอาจริง

2.ใช้กลางคืนได้แต่ต้องได้รับอนุญาต
ปกติแล้วรถป้ายแดงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานตอนกลางคืน เนื่องจากง่ายต่อการกระทำผิดและหลบหนี เนื่องจากแผ่นป้ายสีแดงจะมองเห็นได้ยากกว่าป้ายสีขาวทั่วไป แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ ผู้ขับขี่จะต้องลงบันทึกการใช้รถ พร้อมทั้งต้องมีลายเซ็นจากนายทะเบียน จึงจะสามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้ตามกฎหมาย

ที่มา:http://www.liekr.com/post_143785.html

ขนลุกซู่!! วิญญาณสาวสุดเฮี้ยนโผล่ยืนกลางถนนคอยตัดหน้ารถยนต์กลางดึก ด้านชาวเน็ตเผยเคยเจอกับตัวเองเหมือนกัน!? (คลิป)


นับเป็นหนึ่งในคลิปวิดีโอที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างมากจากกรณีกล้อง CCTV บนถนน Paseo de la Reforma ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโกสามารถจับภาพปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเอาไว้ได้!!
    ณ ช่วงเวลาตี 02.20 น.ของวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมากล้อง CCTV สามารถจับภาพคล้ายวิญญาณหญิงสาวปรากฏกายขึ้นกลางทางข้ามม้าลายตรงกับเลนที่กำลังมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านมาด้วยความเร็วสูงพอดิบพอดี  ซึ่งรถยนต์คันนี้ได้พุ่งทะลุร่างของวิญญาณสาวไปโดยไม่ได้หักหลบหรือเบรคแต่อย่างใด

    ทั้งนี้หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์มีผู้ชมบางส่วนที่ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาเองก็เคยเจอกับปรากฏการณ์ลึกลับเหนือธรรมชาติแบบนี้เช่นเดียวกัน!!

ที่มา:http://www.news-lifestyle.com/contents/157788/

เสื่อมหนัก!! ! เด็กนักเรียนหญิงหนังดูคลิปxบนรถเมล์ ชมคลิป


เสื่อม! เด็กนักเรียนหญิงนั่งดูคลิปxบนรถเมล์

เสื่อม! เด็กนักเรียนหญิงหนังดูคลิปx เมล์ เป็นคลิปหลุดจากต่างประเทศไม่ทราบที่มาที่แน่ชัด แต่เป็นการไม่เหมาะสม ผู้ใหญ่ผู้ปกครองไม่ตักเตือน

รวยไม่รู้ตัว!!! หนุ่มสุดเฮงรับโชคก้อนใหญ่ หลังเจอเหรียญบาทรุ่นหายาก รับเงินสดเนาะๆ สองแสนบาทกลับบ้านสบายใจ!!!



  แจกกันสะเทือนวงการอีกแล้ว เมื่อเฟสบุ๊ค ร้านปาหนัน จิวเวลรี่ ได้แชร์ภาพพร้อมข้อความว่า   "#เหรียญ1บาทปี2505บล๊อคหายากเหรียญที่3 วันนี้ผมนั่งเครื่องบินตากฝนแล้วต่อด้วยมอไซค์ของผมที่จอดทิ้งไว้ในสนามบิน เพื่อมารับเหรียญนี้ เนื่องจากเหรียญนี้มีเห็บเพจพยายามจะชิงไปในราคา140,000บาท 
***การกระทำน่ารังเกียจนี้ ผู้ใหญ่ในวงการบอกว่ายอมไม่ได้....เหรียญสภาพยังสวย จัดไปเลย200,000บาท ผมจึงนัดเพื่อมาเอาเหรียญนี้ด้วยตัวเองที่ ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต แล้วจ่ายเงินสดเรียบร้อย 
***ฝากไปถึงพวกเห็บเพจทั้งหลาย คนเรามีปัญญา มีศักดิ์ศรี ไม่ควรหาประโยชน์จากความยากลำบากของคนอื่น...ผมว่ามันน่าอายและไร้เกียรติ...
"





ที่มา:http://m.johjae.com/gallery-details.php?item=411

โดนหลอกกันทั้งประเทศ?! "ปลาดอลลี่" แท้จริงแล้วคือ…….!!

ไขข้อสงสัย ปลาดอลลี่ ที่แท้เป็น ปลาสวาย จริงหรือ ?

ปัจจุบันได้มีกระแสหลายกลุ่มตั้งคำถามว่า เนื้อปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ ที่มีสีขาวน่าทานนั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากเนื้อปลาสวายบ้านเราเลย พอกระแสนี่ถูกเผยแพร่ออกไป ทำเอาหลายคนรู้สึกไม่อยากกินเนื้อปลาแพนกาเซียสดอรร์รี่ขึ้นมาทันที ความจริงแล้วมันเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ มาไขความกระจ่างกันดีกว่า

โดยแบ่งสายพันธ์ปลาที่ถูกพาดพิงออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆได้แก่

1. สายพันธุ์ปลาดอรี่ อาศัยอยู่ในทะเลลึกของมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีราคาแพง มีลักษณะเป็นปลาตัวกลมๆ เนื้อปลามีสีขาว รสชาติอร่อย และถูกนำเข้ามาในไทยนานแล้ว



2. สายพันธุ์ปลาในกลุ่มแพนกาเซียสหรือปลาสวาย ปลายที่อยู่ในตระกูลนี้ได้แก่ ปลาเทโพ ปลาบึก ปลาคัง และปลาแพนกาเซียส ซึ่งปลาแพนกาเซียสจะมีรสชาติคล้ายปลาดอร์รี่ แต่ราคาถูกกว่า ซึ่งจะเรียกมันว่า ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ก็ยาวไป จึงเรียกย่อๆว่า ปลาดอร์รี่ และเรียกกันอย่างติดปาก

ประเทศไทยนำเข้ากลุ่มปลาแพนกาเซียสดอร์รีมาจากเวียดนาม แบ่งเป็น 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ TRA และ BASA ทำให้สับสนในการเรียกชื่อปลา จึงมีการตกลงให้ใช้ชื่อสากลตรงกันว่า “แพนกาเซียสดอร์รี่” แต่เรียกชื่อท้องถิ่นคือ “ปลาสวาย” นั่นเอง

แม้ปลาแพนกาเซียสดอร์รี่จากเวียดนามกับปลาสวายไทยจะเป็นปลาชนิดเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกันตรงวิธีการเลี้ยง สภาพแวดล้อม อาหารที่ให้ ทำให้เนื้อปลามีคุณภาพต่างกันมาก
คุณค่าทางโภชนาการ

แพนกาเซียสดอร์รี่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีกรดอะมิโน ไขมันโอเมก้า 3 วิตามินบี2 วิตามินดี แคลเซียส ฟอสฟอรัส เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน และแมกนีเซียม แต่ไม่ว่าจะปลาแพนกาเซียสดอร์รี่ หรือปลาสวาย ก็สามารถบริโภคและได้คุณค่าทางสารอาหารทั้งนั้น จะต่างก็แค่รสชาติความอร่อย เนื้อสัมผัสเวลาทานเท่านั้น

ทำความรู้จัก "ปลาดอร์ลี่" ตัวจริง กับ ย้อมแมว




ปลาดอร์ลี่ตัวจริงอยู่ในทะเลลึกที่มหาสมุทแอตแลนติก และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เนื้อแน่น น่ากิน มีชื่อเล่นว่า "จอห์น ดอร์ลี่" (John Dory) ชื่อวิทยาศาสตร์ Zenopsis conchifera
ภาพเปรียบเทียบระหว่างปลาดอร์ลี่ ตัวจริงกับ ปลาดอร์ลี่ย้อมแมว

ภาพปลาดอร์ลี่ กับปลาทะเลที่มีชื่อเสียงชนิดต่าง ๆ



เป็นยังไงครับเมื่อทราบข้อมูลที่แท้จริงเช่นนี้แล้ว ก็ต้องเริ่มคิดใหม่แล้วครับอย่าให้ถูกต้มถูกหลอกอีกต่อไป......
อ่านแล้วก็ใช้วิจารณญาณในการเลือกจ่ายเงินก็แล้วกันนะค่ะ แต่สำหรับท่านที่่ "เสียใจ แต่ไม่แคร์" ก็สุดแล้วแต่ เพราะแต่ละบาทของท่าน ๆ เป็นคนหาเอง อีฉันไม่ได้เข้าไปช่วยหาแต่อย่างใด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.myquestionth.com/question/5097 และ http://www.hotnewshotclip.com/2016/06/blog-post_486.html

แจกสูตร(ไม่)ลับ! กับวิธีทำกากหมู ให้กรอบและหอมหวาน ทานเล่นยังอร่อย

แจกสูตร(ไม่)ลับ! กับวิธีทำกากหมู ให้กรอบและหอมหวาน ทานเล่นยังอร่อย

กากหมู”  เชื่อว่าหลายคนเห็นเมนูนี้เห็นแล้ว ต้องนำลายไหลแน่นอน แต่บอกเอาไว้ตอนนี้เลยนะ ให้กินพอประมาณ แต่สำหรับกินแล้วไม่ห่วงเรื่องหุ้นหรือความอ้วนก็จัดหนักไปเลย เหมาะสำหรับแกล้มเหล้าแกล้มเบียร์ นั่งกินชิวๆ ได้สบาย ทำกินนั่งสังสรรค์กับเพื่อนได้ดีเลยทีเดียว วันนี้เราจึงถือโอกาสมาแจกสูตรลับ แต่ไม่ลับ ให้เพื่อนๆ ได้รับสูตรแล้วนำไปทำกินเองที่ได้บ้าน

วันนี้เรามี เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีทำกากหมูให้กรอบเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีกลิ่นหอมเจียวชวนน้ำลายไหล มาฝาก แต่ปัญหาที่มือใหม่หัดทำมักจะเจอก็คือ เจียวแล้วมันอ่อนอมน้ำมัน หรือไม่ก็แข็งไปยิ่งกว่าแคบหมู นี่คือเคล็ดลับโดย คุณ‎จรรยา พรมเจียม‎ ได้กระซิบบอกค่ะ เริ่มต้นจาก

วิธีทำกากหมู

1. หนังหมูติดมันหั่นเป็นชิ้นๆ จะเยอะหรือน้อยก็แล้วแต่ที่ต้องการ

2. ใส่น้ำส้มสายชูลงคลุกเคล้าให้ทั่ว ไม่ต้องเยอะมาก (ถ้าหนังหมูประมาณ 2 กิโลกรัม น้ำส้มสายชู 3/4 ช้อนโต๊ะ)

3. นำหนังหมูเทใส่กระทะตั้งไฟกลางๆ ต้องหมั่นคนนิดนึง หมูกรอบของเราจะได้สุกและเหลืองเท่าๆ กัน เจียวจนน้ำมันเริ่มออก และให้สังเกตว่า ถ้าน้ำมันเริ่มแตกจากหนังหมู (กระเด็นโพละ!) ไม่ต้องกลัว นำหนังหมูลงจากเตาตักออกจากน้ำมันขึ้นพักไว้ 3 ชั่วโมง

4. ตั้งน้ำมันที่ได้จากข้อ 3 ใช้ไฟแรงกว่าเดิม พอน้ำมันร้อนเทหนังหมูเราลงไปทอดอีกครั้ง หมั่นคนเหมือนเดิม หนังหมูเราจะเริ่มฟูเริ่มพอง จนได้ยินเสียงหนังหมูแตก แล้วก็จะค่อยๆ เริ่มเหลืองขึ้นๆ พอเหลืองสวยก็เป็นอันเสร็จ ตักออกจากน้ำมันขึ้นพักให้เย็น ทานกับน้ำพริก, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยวได้หลากหลายตามใจชอบเลย

ขอขอบคุณภาพประกอบและสูตรจากคุณ ‎จรรยา พรมเจียม
แฟนเพจอาหารไทยแท้ แม่ให้มา

ที่มา:http://www.bedtaledidea.com/2016/09/blog-post_15.html

คลิปนาทีชีวิต! ถ่ายในเรือมรณะตอนกำลังล่ม 27 ศพ ผู้หญิง-เด็กกรีดร้องน่าเวทนา


คลิปนาทีชีวิตตอนที่เรือล่มหน้าวัดสนามไชยเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ศพ สูญหายอีก 2 ราย โดยคลิปนี้โพสต์โดยคุณ Fatima Khemmanee เป็นเหตุการณ์ช่วงเรือที่มีผู้โดยสารนับร้อยคนพุ่งชนตอม่อก่อนเข้าเทียบตลิ่งหน้าวัดสนามไชย โดยคลิปจะเห็นว่าผู้โดยสารซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กเล็กต่างกรีดร้องด้วยความตกใจ ช่วงที่เรือเริ่มเอียง โดยมีผู้ชายคนหนึ่งลุกขึ้นตะโกนบอกให้ทุกคนนั่งลง จากนั้นเรือก็เริ่มเอียงมากขึ้น เสียงกรีดร้องก็ยิ่งดังมาก ก่อนที่คลิปจะตัดไป





ที่มา:https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_17180
คลิปจาก:Makaikyki Srikaweyed

กลั้นน้ำตาไม่อยู่!! "พ่อ" ใจสลายส่ง"ลูกน้อย"เข้าโลงศพ ก่อนบังเกิดวินาทีพลังรักยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย!! แทบทำใจไม่ได้!! (ชมคลิป)


เชื่อว่านี่เป็นวินาทีสะเทือนใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สุดในชีวิตแล้ว เมื่อต้องมาส่ง "ลูก" ผู้เป็นดวงใจที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไปสู่สวรรค์ โดยเพจ เฟซบุ๊ก "Mérsin Vieira" ได้แชร์คลิปของคุณพ่อคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในอาการเศร้าเสียใจกำลังบรรจงกอดจูบ หอมร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยเพื่อจดจำสัมผัสสุดท้าย ก่อนที่จะนำร่างลูกใส่โลงศพเพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป

โดยคลิปดังกล่าวโพสต์ขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 25 ล้าน และแชร์กว่า 6 แสนครั้งแล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สร้างความสะเทือนใจและซาบซึ้งไปพร้อมๆกัน ในเวลากว่า 3 นาที คุณพ่อพยายามที่จะซึบซับสัมผัสสุดท้ายไว้ให้นานที่สุดก่อนจะค่อยๆบรรจงวางร่างของลูกในโลงศพ มองภาพลูกน้อยที่เคยมีลมหายใจและทำให้คนเป็นพ่อมีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะกลั้นใจเดินออกไป อย่างไรก็ตามผู้ที่ได้รับชมคลิปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่างเป็นวินาทีที่สะเทือนใจเสียจริงๆ


ที่มา:http://www.news-lifestyle.com/contents/157682/

ฝากไว้เป็น”อุทาหรณ์”ก้มหน้าเล่นแต่โทรศัพท์ ขับรถชนเด็ก(ชมคลิป)

คลิปนนี้ต้องฝากไว้เตือนใจ คนที่ชอบเล่นโทรศัพท์แล้วขับรถ อย่างสาวจีนคนนี้ ขับรถไม่ทันระวัง ทั้งๆที่เด็ก 3 คนนั่งเล่นกันอยู่ ทำให้ เด็กบาดเจ็บสาหัส

แก๊งโจ๋เปิดศึกตะลุมบอนกลางเมืองสุรินทร์ ชักปืนไล่ยิงกันเย้ยกฎหมายดับ 1 (มีคลิป)

วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยตามล่ากลุ่มวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอน และใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ จนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่หน้าเซเว่นใกล้ย่านสถานบันเทิง ถนนศิริรัฐ เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ เมื่อเวลา 02.30 น. ของวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากสถานบันเทิงเริ่มปิดและผู้คนทะยอยกลับบ้าน
ต่อมาเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมานายอรรถพร สิงหวิชัย ผวจ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดที่เกิดเหตุที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนศิริรัฐ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ งามสง่า ผกก.สส.ภ.จว.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.สุรินทร์ เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม
สำหรับเหตุวัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกันและใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น.ของวันที่ 19 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ รับแจ้งมีเหตุวัยรุ่นยกพวกทะเลาะวิวาทใช้ทั้งปืนและอาวุธมีด เป็นเหตุให้นักศึกษาถูกลูกหลงบาดเจ็บสาหัส มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดย่านสถานบันเทิง ถนนศิริรัฐ เขตเทศบาลเมือง ตำรวจสายตรวจ ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ชีพ นเรนทร ร.พ.สุรินทร์ หน่วยวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่บริเวณประตูทางเข้าเซเว่น ตรงข้ามทางเข้าโรงแรมทองธารินทร์ พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือนายภูธเนศ ยอดอาจ อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กลางหลังทะลุหน้าอก 1 นัด อาการสาหัส โดยมีเพื่อนนักศึกษาได้พากันหอบร่างผู้บาดเจ็บเข้าไปหน้าเคาร์เตอร์เชเว่น ขณะที่กู้ชีพเร่งให้การช่วยเหลือ นำส่ง ร.พ.สุรินทร์ แต่เนื่องจากอาการสาหัสนายภูธเนศ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งราย รอการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ บนฟุตบาทใกล้ลานจอดรถสถานบันเทิงสปีด มิวสิคฮอลล์ ทราบชื่อนายเอกราช นิยมเหมาะ อายุ 21 ปี พนักงานโรงน้ำเเข็งวรรณเทพ ถูกฟันด้วยอาวุธมีดที่ศีรษะ 1 แผล บาดแผลฉกรรจ์ กู้ชีพได้นำส่งรพ.ให้แพทย์ทำการช่วยเหลือ
สอบถามพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ฝ่ายละไม่น้อยกว่า 10 คน ยกพวกเข้าตะลุมบอนกัน โดยใช้ปืนและมีดเป็นอาวุธ ซึ่งกลุ่มที่อยู่บนถนนศิริรัฐ ได้ใช้ปืนยิ่งใส่คู่กรณีที่กำลังเดินออกมาจากสถานบันเทิง อีกกลุ่มหนึ่งจึงใช้ปืนยิงโต้ตอบกลับ มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นได้กรูเข้าตะลุ่มบอนกันต่อ ทำให้นักเที่ยวที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน ต่างวิ่งหนีตายแตกกันคนละทิศละทาง โดยทั้ง 2 กลุ่มเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่มาระงับเหตุ ต่างก็รีบขึ้น จยย.แยกย้ายกันหลบหนี
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งขอภาพวีดีโอวงจรปิดในพื้นที่ที่บันทึกภาพแกะรอย จนสามารถจับกุมกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยก่อเหตุมาได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก ปืนปากกา 1 กระบอก และอาวุธมีดอีก 2 เล่ม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ ผวจ.สุรินทร์ ได้รุดสอบกลุ่มเยาวชนที่ร่วมกันก่อเหตุด้วยตนเอง
นายอถรรพร กล่าวว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ก่อเหตุอย่างอุกอาจกลางเมือง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นที่สาธารณะ ซึ่งอาจมีคนถูกลูกหลงได้ ทางเจ้าหน้าที่เองทั้งปกครอง ตำรวจก็คงยอมไม่ได้ และสามารถติดตามจับกุมทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเจ้าหน้าที่ ก็จะให้ดำเนินการส่งฟ้องไปตามกฎหมายอย่างรวดเร็วต่อไป
ทีมา https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_16761

ต้องหามาทาน! น้ำต้มเมล็ดมะรุม แก้ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ


ต้องหามาทาน! น้ำต้มเมล็ดมะรุม แก้ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ
สรรพคุณ น้ำต้มเมล็ดมะรุม ดื่มแก้ปวดเมื่อยร่างกาย ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น (ยาหาย)

วิธีทำ แก้ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ ปวดกระดูก กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ นำเเมล็ดมะรุมตากแห้ง1กำมือ ต้มในน้ำเดือด1ลิตร ประมาณ 5นาที รับประทาน ครั้งละ 1แก้ว หลังอาหาร เช้า-ก่อนนอน

คอยสังเกตุธาตุตัวเราเองด้วยในการขับถ่าย หากมากไปก็ลดปริมาณลง เพราะแต่ละคนธาตุจะไม่เหมือนกัน(หากหาไม่ได้ก็ซื้อได้ตามร้านขายยาจีน)

ถ้าจะให้ได้ผลดีท่านต้องงดอาหารหมักดอง เครื่องในสัตว์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ มิเช่นนั้นแล้วจะเห็นผลน้อย เพื่อสุภาพก็ต้องงดนะครับ
ที่มา:http://www.lovenayou.com/5209/

อุทาหรณ์เครื่องเล่น “บ้านลม“ พัดปลิวลิ่ว เด็กตกลงมาเสียชีวิต..ชมคลิป


อุทาหรณ์เครื่องเล่น “บ้านลม“ พัดปลิวลิ่ว เด็กตกลงมาเสียชีวิต..

วิธีบอกลาไม่ให้ยุงมากวนใจ รีบอ่านด่วน มีประโยชน์มาก!

 ยุงนอกจากจะก่อความรำคาญให้เราแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคมาสู่มนุษย์อีกด้วย วันนี้มาดูวิธีบอกลายุง ไม่ให้เข้ามากวนใจมาฝากกัน
ใช้น้ำส้มสายชูต้มสุกมาวางในห้อง กลิ่นของมันทำให้ยุงไม่กล้าบินเข้ามาเลย
 นำเปลือกส้มไปเผาไฟเล็กน้อย ให้น้ำมันของเปลือกส้มออกมา ยุงเกลียดกลิ่นนี้นัก
 วางกะละมังใส่น้ำผสมผงซักฟอกทิ้งไว้ขางหน้าต่าง วางไว้ข้ามคืนก็จะเห็นซากยุงลอยเกลื่อนอยู่
 เปิดฝาน้ำมันหอมไว้ในห้อง

วิธีง่ายๆ ห่างไกลสารเคมีและยุงร้าย บอกลายุงไม่ให้มากวนใจอีก!
http://www.liekr.com/post_139601.html

แจกสูตรกุ้งถัง ทำกินเองที่บ้านได้ง่ายๆ ไม่ต้องง้อบัตรคิวแล้ว !!

แจกสูตรกุ้งถัง ทำกินเองที่บ้านได้ง่ายๆ ไม่ต้องง้อบัตรคิวแล้ว !!

กุ้งถัง เมนูยอดฮิตที่มาแรงแซงทางโค้ง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอร่อยแค่ไหน ด้วยน้ำซอสสูตรพิเศษของแต่ร้านมีให้เลือกหลายรสชาติ และแต่ละร้านก็มีสูตรเด็ดที่ไม่เหมือนกัน

แต่หากจะทำกินเองที่บ้านนั้นก็ทำได้ไม่ยากอีกเช่นกัน แม้อาจจะไม่เหมือนกับที่ร้าน แต่ก็พอกินให้หายอยากไม่ต้องไปรอคิวให้เมื่อย

ส่วนผสม
กุ้ง หรืออาหารทะเลอื่นๆ ตามใจชอบ
น้ำพริกเผา 1/2 ถ้วย
เนยเค็ม 50 กรัม
เกลือป่น
พริกไทย
พริกปาปีก้า
มันกุ้ง 1 ถ้วย (ใส่ก็หรือไม่ใส่ก็ได้)
น้ำกะทิ

วิธีทำ

ลวก กุ้ง หอย ปู ปลา ที่เลือกซื้อมาให้สุกก่อน

ใส่เนยและก็พริกเผาลงไปในกระทะ ผัดให้เนยละลาย และเติมน้ำกะทิลงไปเล็กน้อย พอให้น้ำพริกเผาแตกมัน แล้วใส่มันกุ้งลงไป ผัดให้ทุกอย่างเข้ากันดี

ใส่เกลือ พริกไทย ผงปาปีก้า ปริมาณตามความชอบเลยค่ะ ผัดให้เข้ากันพร้อมกับชิมว่าได้รสชาติที่ชอบหรือยัง หากใครชอบหวานก็อาจจะเติมน้ำตาลลงไปเล็กน้อยเท่านั้น เพราะจะความหวานจะมีจากน้ำพริกเผาอยู่แล้ว

ใส่กุ้ง และของทะเลที่ลวกแล้วลงไปผัดให้เข้ากัน เท่านนี้ก็จัดใส่จานเสิร์ฟได้เลยค่ะ หากจะให้เหมือนที่ร้านก็รองด้วยกระดาษไขด้วย ข้อดีคือล้างจานได้ง่าย

สูตรนี้อาจจะไม่เหมือนสูตร กุ้งถังแท้ๆ ตามร้านนะคะ ใครชอบรสไหนก็อาจจะพลิกแพงสูตรได้ตามความของแต่ละคน แอดมินเชื่อว่าไอเดียการทำอาหารของทุกคนมีกันอยู่แล้ว หากใครยังไม่เคยกิน กุ้งถัง ก็ลองไปชิมกันที่ร้านก่อนว่ารสชาติกุ้งถัง ที่อร่อยแบบต้นตำรับเป็นยังไง แล้วค่อยกลับมาทำกินเองที่บ้านนะคะ
ที่มา:http://www.rak-sukapap.com/2016/09/blog-post_646.html

รู้ก่อนสาย!! รู้กันยัง? ผงชูรส ทำมาจากอะไร ทำไมใส่อาหารถึงอร่อยขึ้นได้ บอกเลยรู้แล้วจะอึ้ง!!


เชื่อว่าเกือบจะแทบทุกบ้านต้องมีผงชูรส เป็นเครื่องปรุงติดครัวเป็นแน่ และเมื่อพูดถึงผงชูรส สิ่งที่เราจะมักจะคุ้นเคยกับผงชูรสก็คือ มันเพิ่มรสอร่อยให้เมนูต่างๆของอาหารนั่นเอง แต่ก็ยังมีหลายๆคนที่ยังไม่รู้ว่า จริงๆแล้วผงชูรส ทำมาจากอะไร ทำไมใส่อาหารถึงอร่อยขึ้นได้ บอกเลยรู้แล้วจะอึ้ง!!

ตายตาหลับ!! รู้กันยัง? ผงชูรส ทำมาจากอะไร ทำไมใส่อาหารถึงอร่อยขึ้นได้ บอกเลยรู้แล้วจะอึ้ง!!
ผงชูรสที่เราใช้ในการปรุงอาหารทุกวันนี้ หลายท่านคงเคยสงสัยว่ามันทำมาจากอะไร ทำไมมันถึงทำให้รสชาติอาหารของเรานั้นอร่อยนัก วันนี้เราจะมาเฉลยสิ่งที่ทุกท่านสงสัยกัน ไปดูกันเลยว่า กว่าจะมาเป็นผงชูรสนั้น ต้องผ่านกระบวนการใดบ้าง


ผงชูรสผลิตจากกระบวนการหมัก โดยกระบวนการผลิตจะเริ่มต้นจากการหมักกากน้ำตาลจากอ้อย หรือน้ำตาลจากแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบธรรมชาติโดยผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ได้จะเป็นผลึกขาวบริสุทธิ์ ละลายน้ำได้ง่าย และเข้ากับอาหารได้ทุกชนิด

ผงชูรสจะช่วยเสริมรสชาติของอาหารหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ อาหารทะเล หรือผัก โดยจะช่วยให้อาหารมีรสชาติเด่นชัดขึ้น และผงชูรส 1 ช้อนชานั้นเหมาะที่จะใช้ในการปรุงอาหารที่ เป็น เนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัม หรือปรุงอาหารจำพวกผักและซุปหรือแกงจืด 1 หม้อ นั่นเอง หากใช้เกินจากนี้อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

ที่มา:http://www.lovenayou.com/4450/

ควรระวัง!! การใช้ก้านสำลี “แคะหู” อันตรายใกล้ตัวที่คุณคาดไม่ถึง!!


หลายๆคนทุกครั้งเวลารู้สึกมีอะไรระคายที่หู หรืออยากทำความสะอาดหู ด้วยความคุ้นชิน เรามักใช้คัตตั้นบัดส์ ปั่นที่หู เพราะเราคิดว่าเป็นวิธีการทำความสะอาดหูที่ง่ายที่สุด

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การใช้คัตตอนบัดเป็นประจำนั้น จะก่อให้เกิดอันตราย มากกว่าที่คุณคิด เพราะ ดร.เดนนิส ฟิทซ์เจอรัลด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติของหูและจมูกในวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ได้เตือนว่า

“ใช้ก้านสำลีแหย่หู เป็นอันตรายกว่าที่คิด เพราะอาจจะไปทำลายเหยื่อแก้วหูให้ฉีกขาด และอาจจะติดเชื้อได้”

เมื่อเว็บไซต์ อินดิเพนเดนท์ มีการรายงานว่า คัตตอนบัด วิธีการใช้ ที่แท้จริงคือ ใช้ทำความสะอาดสิ่งเล็กๆ งานฝีมือ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะนำมาใช้แบบผิดวิธี ถึงแม้ว่าจะมีการเตือนว่าห้ามนำมาใส่หู แต่หลายคนก็มองข้าม และนำมันมาปั่นหูกัน

และการโฆษณาก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดการเข้าใจผิด ตัวอย่าง มีคัตตอนบัดยี่ห้อหนึ่ง เขียนไว้ว่า ใช้สำหรับดูแลช่องหูผู้ใหญ่ แต่มีคำเตือนว่าห้ามใส่ในช่องหู เป็นมาตังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เพราะ ดร.เดนนิส ฟิทซ์เจอรัลด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความผิดปกติของหูและจมูก ในวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงจังมาก เพราะมีผู้ป่วยเข้ามารักษาหูเป็นจำนวนมาก เนื่องจากจากการใช้คัตตอนบัดสอดเข้าไปในช่องหู เพราะภายในช่องหูของคนเต็มไปด้วยเส้นประสาท ที่ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย บางคนชอบใช้คัตตอนบัดมาปั่นหูเพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินและคิดว่าหายคัน

แต่เมื่อเราใช้คัตตอนบัดแหย่เข้าไปมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้มีอาการคันมากขึ้นเท่านั้น เพราะคิดว่าขี้หูเป็นสิ่งสกปรกซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดมาก เพราะขี้หูทำหน้าที่เช่นเดียวกับน้ำตา ร่างกายสร้างขึ้นมาตามกลไกธรรมชาติเพื่อกรองและป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปภายในช่องหูได้

การใช้คัตตอนบัตแหย่เข้าไปในรูหูนั้น ไม่เกิดผลดีแล้ว ยิ่งทำให้ขี้หูเข้าไปในเยื่อแก้วมากขึ้น เมื่อก้านคัตตอนบัดเข้าไปมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เยื่อแก้วหูฉีกขาดมากเท่านั้น และอาจทำลายกระดูกหูส่วนกลางเลยก็เป็นได้

ที่มา:http://www.lovenayou.com/2406/

เพียงใช้วิคส์ทาในหูของคุณทิ้งไว้ทั้งคืน คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเช้า

เพียงใช้วิคส์ทาในหูของคุณทิ้งไว้ทั้งคืน คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเช้า


วิคส์เป็นยายอดนิยมที่ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยได้อย่างมากมาย บทความนี้จะช่วยบอกวิธีรักษาอาการต่างๆ จากการใช้วิคส์

สามส่วนผสมหลักของวิคส์ มีเมนทอล การบูร และน้ำมันยูคาลิปตัส ช่วยบรรเทาอาการไอและลดอาการแน่นจมูก นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์นี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายและยังสามารถสร้างความประหลาดใจกับกรณีดังต่อไปนี้:


อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

คุณลองใช้ผลิตภัณฑ์นวดบริเวณที่มีอาการเจ็บปวดจากนั้นนำผ้าขนหนูมาห่อไว้จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี

อาการปวดหู

ส่วนใหญ่อาการปวดหูเป็นผลมาจากการติดเชื้อที่หูหรือเป็นไข้หวัด อาการปวดหูมักสร้างความเจ็บป่วยในขณะที่กำลังนอนหลับทำให้คุณนอนหลับไม่เพียงพอก่อให้เกิดความทรุดโทรมแก่ร่างกาย ด้วยเหตุนี้คุณลองใช้คัตเติ้ลบัตทาวิคส์แล้วทาเข้าไปในหูทิ้งไว้ตลอดคืน จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้หายไป

อาการปวดหัว

ในกรณีที่มีอาการปวดศีรษะลองใช้วิคส์ทาบางๆที่ขมับจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่มีอาการปวดหัวไซนัสให้ทาเข้าไปในรูจมูกจากนั้นหายใจเข้าช้าๆลึกๆ จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

ส้นเท้าแตก

ใช้วิคส์ถูนวดบริเวณส้นเท้าของคุณทุกเย็น นวดบริเวณที่มีปัญหาปล่อยทิ้งไว้ตลอดคืน ล้างออกในตอนเช้าด้วยน้ำอุ่นและขัดด้วยหินภูเขาไฟจะช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตกของคุณ

รักษารอยฟกช้ำและบาดแผลเล็กๆ

เพื่อช่วยให้อาการเหล่านี้หายเร็วขึ้น เพียงคุณทาวิคส์รอบๆ บาดแผลเล็กๆของคุณ แต่หลีกเลี่ยงการทาเข้าไปในแผลโดยตรง สำหรับรอยฟกช้ำใช้วิคส์และเกลือผสมกันถูนวดเบาๆ จะช่วยบรรเทาอาการฟกช้ำให้หายเร็วขึ้น

เชื้อราที่เล็บเท้า

ทาวิคส์บริเวณที่ติดเชื้อ 2-3 ครั้งทุกวัน ใช้วิธีรักษานี้เพียงสองสามสัปดาห์เชื้อราจะหายไป

รักษารอยข่วนของสัตว์

หากคุณอยากป้องการรอยขีดข่วนของแมว ให้ทางวิคส์บางๆไว้บนประตู โซฟ ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ของคุณ

ไล่แมลง

ใช้วิคส์ทาบางๆ บริเวณเสื้อผ้าและผิวของคุณสามารถช่วยไล่แมลงได้ แต่ถ้าคุณโดนแมลงกัดต่อยให้ถูนวดวิคส์บริเวณที่เกิดปัญหาเพื่อบรรเทาอาการคัน

ที่มา:http://www.share-si.com/2016/09/blog-post_674.html
Powered by Blogger.