สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ชื่อที่พวกเราคุ้นหูกันนี้เป็นเขตพื้นที่ที่นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาต่างพากันศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับความลึกลับของเขตพื้นที่มรณะแห่งนี้ เพราะมันกลืนเครื่องบิน เรือ และคนจำนวนมากหายเข้าไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ทิ้งร่องรอยไว้แต่น้อย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่หายเข้าไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นหายไปอยู่ไหน…
ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุแล้วหายสาบสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เช่น นักบินหรือลูกเรือนั้น มักจะปรากฏตัวที่ไหนสักแห่งหลังจากหายไปหลายปี
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดาในอเมริกาเหนือ กินพื้นที่ตั้งแต่หมู่เกาะเบอร์มิวดาลากตรงไปถึงไมอามี่ไปจนถึงเปอโตริโก ทำมุมบรรจบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ในแถบน่านน้ำมหาสมุทรแอตแล นติก
น่านน้ำแถบนี้มักจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่สามารถใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์หรือการสันนิษฐานทั่วไปเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
แต่คนที่หายไปเมื่อ 36 ปีที่แล้วปรากฎตัวขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อปี ค.ศ. 1954 ในเขตทะเลแคริบเบียน โรแกนและนอตันได้แข่งขันขับเคลื่อนบอลลูนผ่านมหาสมุทร ในวันแข่งขันนั้นเป็นวันอากาศดีมาก ท้องฟ้าเปิด แต่แล้วบอลลูนของพวกเขาก็หายไปต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก
เจ้าบอลลูนที่หายไปหลายสิบปีนี้ถูกพบอีกทีในปี ค.ศ. 1990 ที่เขตน่านน้ำทะเลคิวบา รัฐบาลคิวบาเคร่งเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขา Agelon of Major นักบินชาวคิวบากล่าวว่า “บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ก่อนหน้านี้ 1 นาทีไม่มีอะไรอยู่บนนั้นแต่หลังจากนั้น 1 นาทีอยู่ๆก็มีบอลลูนโผล่มา”
ในตอนนั้นกองทัพคิวบาได้ตรวจเจอบอลลูนลำนี้ด้วยเรดาห์ จึงนึกว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาและเตรียมจะสั่งการเครื่องบินรบให้ออกไปยิงต่อสู้
ท้ายที่สุดบอลลูนลำนี้ถูกเครื่องบินของคิวบาโจมตีจนตกลงในมหาสมุทร โรแกนและนอตันถูกเรือกู้ชีพช่วยขึ้นมาได้และถูกส่งตัวไปสอบปากคำที่ฐานลับทหารเรือของประเทศคิวบา โรแกนและนอตันเล่าว่า พวกเขากำลังแข่งขันการขับบอลลูนจากฮาวานาไปสู่เปอโตริโก ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานถึง 36 ปีแล้ว รู้สึกแค่ว่าเจ็บแสบเบาๆตามตัวเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วร่างกาย พอกระพริบตาทุกอย่างก็กลายเป็นสีเทาทั้งท้องฟ้าและมหาสมุทร แล้วพวกเขาก็เห็นเครื่องบินรบของคิวบาปรากฎอยู่ตรงหน้า
นักสืบสวนสอบสวนชาวชิคาโก Carl `Al Gore ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการให้ปากคำของโรแกนและนอตันว่าพวกเขาได้หายไปอย่างพิศวงท่ามกลางการแข่งขันขับบอลลูนจริง
Carl สันนิษฐานว่าบอลลูนได้เดินทางผ่านมิติเวลา เขากล่าวว่า”สำหรับพวกเขามันเป็นเวลาเพียงแว้บเดียวแต่เวลาบนโลกนี้ได้ผ่านไปถึง 36 ปีแล้ว อาจจะพูดได้ว่าบนโลกของเรามีอีกหนึ่งมิติเวลาที่ช้ากว่าปกติ”
นักวิทยาศาสตร์ต่างพากันพูดถึงเหตุการณ์ประหลาดและบุคคลที่หายตัวไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในช่วงนั้น
แม้ว่านักสอบสวนจะบอกพวกเขาซ้ำๆว่าเวลาได้ผ่านไปนานกี่ปีแล้ว จนพวกเขารับได้กับความจริง แต่การที่จะสืบสวนว่าเรื่องราวในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างพวกเขาก็ตอบไม่ถูกเพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็โผล่มาที่นี่แล้ว
บุคคลที่หายสาบสูญไปไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว…เหมือนอยู่ดีๆก็มาโผล่ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ! แล้วคุณล่ะ เชื่อเรื่องมิติเวลานี้ไหม?
ที่มา liekr
ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ผู้คนที่ประสบอุบัติเหตุแล้วหายสาบสูญไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เช่น นักบินหรือลูกเรือนั้น มักจะปรากฏตัวที่ไหนสักแห่งหลังจากหายไปหลายปี
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดาในอเมริกาเหนือ กินพื้นที่ตั้งแต่หมู่เกาะเบอร์มิวดาลากตรงไปถึงไมอามี่ไปจนถึงเปอโตริโก ทำมุมบรรจบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่ในแถบน่านน้ำมหาสมุทรแอตแล นติก
น่านน้ำแถบนี้มักจะเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่สามารถใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์หรือการสันนิษฐานทั่วไปเพื่อหาคำตอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
แต่คนที่หายไปเมื่อ 36 ปีที่แล้วปรากฎตัวขึ้นได้อย่างไร?
เมื่อปี ค.ศ. 1954 ในเขตทะเลแคริบเบียน โรแกนและนอตันได้แข่งขันขับเคลื่อนบอลลูนผ่านมหาสมุทร ในวันแข่งขันนั้นเป็นวันอากาศดีมาก ท้องฟ้าเปิด แต่แล้วบอลลูนของพวกเขาก็หายไปต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก
เจ้าบอลลูนที่หายไปหลายสิบปีนี้ถูกพบอีกทีในปี ค.ศ. 1990 ที่เขตน่านน้ำทะเลคิวบา รัฐบาลคิวบาเคร่งเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขา Agelon of Major นักบินชาวคิวบากล่าวว่า “บนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ก่อนหน้านี้ 1 นาทีไม่มีอะไรอยู่บนนั้นแต่หลังจากนั้น 1 นาทีอยู่ๆก็มีบอลลูนโผล่มา”
ในตอนนั้นกองทัพคิวบาได้ตรวจเจอบอลลูนลำนี้ด้วยเรดาห์ จึงนึกว่าเป็นเครื่องบินลับของทหารอเมริกาและเตรียมจะสั่งการเครื่องบินรบให้ออกไปยิงต่อสู้
ท้ายที่สุดบอลลูนลำนี้ถูกเครื่องบินของคิวบาโจมตีจนตกลงในมหาสมุทร โรแกนและนอตันถูกเรือกู้ชีพช่วยขึ้นมาได้และถูกส่งตัวไปสอบปากคำที่ฐานลับทหารเรือของประเทศคิวบา โรแกนและนอตันเล่าว่า พวกเขากำลังแข่งขันการขับบอลลูนจากฮาวานาไปสู่เปอโตริโก ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานถึง 36 ปีแล้ว รู้สึกแค่ว่าเจ็บแสบเบาๆตามตัวเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ทั่วร่างกาย พอกระพริบตาทุกอย่างก็กลายเป็นสีเทาทั้งท้องฟ้าและมหาสมุทร แล้วพวกเขาก็เห็นเครื่องบินรบของคิวบาปรากฎอยู่ตรงหน้า
นักสืบสวนสอบสวนชาวชิคาโก Carl `Al Gore ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการให้ปากคำของโรแกนและนอตันว่าพวกเขาได้หายไปอย่างพิศวงท่ามกลางการแข่งขันขับบอลลูนจริง
Carl สันนิษฐานว่าบอลลูนได้เดินทางผ่านมิติเวลา เขากล่าวว่า”สำหรับพวกเขามันเป็นเวลาเพียงแว้บเดียวแต่เวลาบนโลกนี้ได้ผ่านไปถึง 36 ปีแล้ว อาจจะพูดได้ว่าบนโลกของเรามีอีกหนึ่งมิติเวลาที่ช้ากว่าปกติ”
นักวิทยาศาสตร์ต่างพากันพูดถึงเหตุการณ์ประหลาดและบุคคลที่หายตัวไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาในช่วงนั้น
แม้ว่านักสอบสวนจะบอกพวกเขาซ้ำๆว่าเวลาได้ผ่านไปนานกี่ปีแล้ว จนพวกเขารับได้กับความจริง แต่การที่จะสืบสวนว่าเรื่องราวในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างพวกเขาก็ตอบไม่ถูกเพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วพวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ก็โผล่มาที่นี่แล้ว
บุคคลที่หายสาบสูญไปไม่สามารถรับรู้ได้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว…เหมือนอยู่ดีๆก็มาโผล่ในอีกช่วงเวลาหนึ่ง เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ! แล้วคุณล่ะ เชื่อเรื่องมิติเวลานี้ไหม?
ที่มา liekr