"คนปลายซอย
พุธที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๙
"เพียงอยากบอกว่า...เขาไม่หยุด"
------------------------------
นึกไว้แล้วว่า"มันต้องมา"!
แล้วมันก็มาจริงๆ
"นอก"ประสาน"ใน"สร้างเหตุเนียนๆหลากรูปแบบเป็น"ลิ่ม"แทรก"ใจ"คนไทย
หวังสกัดมิให้"หลอมรวม"เป็นหนึ่ง!
ช่องทางหลักที่"เขา"ใช้เป็นเครื่องมือ คือ"โซเชียลมีเดีย"
และด้วย"ความซื่อเชิงเดี่ยว"ทำให้บางคน กลายเป็นลูกมือแพร่กระจายเชื้อพิษให้พวกมุ่งทำลาย"บรรลุผล"โดยไม่รู้ตัว
ตรงนี้ เห็นว่าสำคัญที่ต้องนำมาพูดจากัน!
ฉะนั้น วันนี้ คุยกันหน่อย ก่อนที่เราทั้งทั้งหลาย จะกลายเป็นพระเอก-นางเอกในละครเรื่้อง"รักทางลบ"
คือ"เขา"เห็นคนไทยคืนรวมอยู่ในชุด"สีศอพระศิวะ"ก็เกรงว่า ถ้าไม่ทำอะไร ฝ่ายตัวเองจะสูญพันธุ์ในที่สุด
จึงคิดแผน"แทรกทำลาย"มิให้คนไทยรวมกันติด!
เท่าที่สังเกต .........
เขายึดหลัก เหตุที่คนไทยกลับมารวมกัน เพราะด้วย"ศูนย์กลางรัก"อยู่ที่เดียวกัน คือ"พ่อ-พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย"
เขาจึงคิดแผน"รักทางลบ"ย้อนรอย
โดยอาศัย"ใจประชาชน"ด้วยกัน เป็นตัว"กระแทกใจ"ประชาชนด้วยกัน ให้แตกออกจากศูนย์
ต้นไม้นั้่น"ตัดราก"ก็ตาย
ส่วนคน"ตัดรัก"ก็คลาย
"ลิ่ม"ที่เขาใช้ตอก จึงเน้นเรื่อง"มีกับไม่มี"ในเชิงแบ่งแยกชนชั้นเป็นตัว"ตัดรัก"โดยหักทำลายใจซึ่งกันและกัน
ถ้าเป็นนิยาย ก็ทำนอง"รวย-จน,เศรษฐี-ยาจก"ประมาณนั้น!
อะไรจะแยกใจคนที่เคยรักร่วมให้ต้องแตกรักจากกันได้เท่าการสร้างเรื่องให้เกิดความ"น้อยเนื้อ-ต่ำใจ"ในกันและกัน เห็นจะไม่มีแล้ว
นี่ก็เช่นกัน หนึ่งแผนที่เขาใช้ จับจุดได้ว่า.......
พลันรัฐบาลประกาศให้แต่งชุดดำไว้อาลัย"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ"
เขาจับประเด็นพุ่งใส่ผ่านโซเชียลมีเดียทันที .......
ทำนอง"คนจนถูกกีดกัน"ไม่ให้รักในหลวงบ้าง ใครไม่แต่งดำ จะเข้าถวายสักการะพระบรมศพไม่ได้บ้าง ไม่แต่งดำ ถูกคัดออกจากคนไทยรักในหลวงบ้าง
เพราะเขารู้...........
คนไทย ๖๕-๖๘ ล้าน"รักในหลวง"
แต่จะมีเสื้อดำใส่ทุกวัน ทุกกาลเวลา ไม่มีทุกคนแน่!
เมื่อ"ปั้นประเด็น"ปล่อยทางโซเชียลมีเดียแล้ว ปรากฏว่า ด้วยความรู้สึกร่วมของมนุษย์ ต่างเห็นด้วย ก็แชร์ ก็พูดขยายต่อๆกันไป
จนกลายเป็นว่า........
รัฐบาล"บังคับให้ประชาชนแต่งดำ"!
เมื่อมีคำว่าบังคับ ก็เกิดคำถามจากมนุษย์เถื่อนตามมา โดยเฉพาะสื่อเครือข่ายลอบบี้ยิสต์ต่างประเทศ ทำนอง
"เอ๊ะ ที่เห็นมืดฟ้ามัวดิน บังคับศรัทธามาหรือเปล่า?"
เอามั้ยล่ะ...เริ่มสร้างตำหนิในจุดงามบริสุทธิ์เข้าให้แล้ว
ขึ้นชื่อว่า"บังคับ"ใครฟังก็เกิดปฏิกริยาต่อต้าน กระทั่ง คนไทยกันเอง เมื่อถูกชี้นำ"ให้คิด"
จาก"รักทางบวก"กลายเป็น"รักทางลบ"ไปก็มาก!
ทั้งเฟซ ทั้งอินสตาแกรม ทั้งไลน์ กระหน่ำตอกย้ำเป็นจริง-เป็นจังกันยกใหญ่ ในเรื่องเสื้อดำ-ไม่ดำ
จนบางคนที่"ซื่อเชิงเดี่ยว"ถลำเข้าไปเป็นเครื่องตามเขาไปด้วย!
ทั้งที่จริงๆแล้ว ด้วยสามัญสำนึก.........
ไม่ว่ารัฐบาลไหน-ประเทศไหนในโลก เมื่ออยู่ในภาวะสูญเสียยิ่งใหญ่เช่นนั้น
จะประกาศเชิญชวนประชาชนทั้่งประเทศ ให้ร่วมไว้อาลัย ส่วนจะรูปแบบไหน ก็สุดแต่ธรรมเนียม-ประเพณีชาตินั้นๆ
ไทยเราประเพณีนิยม"ดำ-ขาว"เป็นชุดไว้ทุกข์
ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ว่า การประกาศของรัฐบาล เป็นอารยนิยมทางประเพณีสังคมร่วมชาติ ในการแสดงออกร่วมกัน
ไม่ได้หมายความว่า"รัฐบาลบังคับ"ไปหมดทุกคน!
ใครจะใส่-ไม่ใส่ดำ เป็นเรื่องแต่ละคนคิดได้-รู้ได้ตามเหตุปัจจัย ตามกาละเทศะของแต่ละคน ไม่มีใครบังคับใคร
ใครจะแต่งดำ แต่งแดง แต่งเขียว แต่งเหลือง ก็แค่เรื่องของสี
ประเด็นสำคัญอยู่ที่"ใจ"ตะหาก เมื่อยึดใจบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง จะชุดดำหรือไม่นั้น รู้ได้ด้วยใจตัวเอง
และขึ้่นอยู่กับคนๆนั้นด้วยว่า รู้จักระเบียบ รู้จักมรรยาท รู้จักกาละเทศะ และรู้จักกาล รู้จักสถานที่ ในที่จะไปมาก-น้อยแค่ไหน?
จะไปเที่ยว ไปช้อป จะแต่งสีอะไร ก็เรื่องของแต่ละคน ไม่มีใครว่า
แต่ถ้าจะไปร่วมถวายสักการะพระบรมศพ หรือไปอยู่ในสถานที่ที่มีกฎระเบียบ-แบบแผนให้ปฏิบัติ
ก็ควร"แต่งดำ"ด้วยอารยวิสัย.......
แต่ถ้าไม่แต่งดำ ก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่ไม่ต้องเข้าไปร่วมกับบุคคลหรือในสถานที่นั้่น ก็เท่านั้น
ครับ...ผมก็เห็นรัฐบาล ไม่ว่าท่านนายกฯ ท่านรองฯวิษณุ และโฆษกรัฐบาล"พลโทสรรเสริญ"ออกมาแจงแล้ว-แจงอีก ย้ำแล้ว-ย้้ำอีก
ว่าดำหรือไม่ดำ"ไม่มีใครบังคับใคร"
เพียงแต่ขอร้องเยี่ยงอารยชน จะแต่งชุดไหน-สีไหน"พอเหมาะ-พอควร" แก่กาลทุกข์โศกของคนทั้่งประเทศก็แล้วกัน
นี่เรื่องหนึ่ง ........
อีกเรื่องที่ตามมา ก็จากเรื่องเดียวกัน เมื่อจุดประเด็นตามโซเชียลแล้ว ฝ่ายสุมฟืน-สุมไฟ ก็ดรามาต่างๆนานา
ใช้ประเด็น"จน...ไม่มีเสื้อดำใส่"แล้วถูกรังเกียจ สร้างเป็นเรื่องโพสต์กันพรึ่ดไปหมด
หวังให้เกิดภาวะ"เมื่อรักถูกรังเกียจ"ก็เกิดแตกแยก ประมาณนั้น
พอรัฐบาลย้ำมากๆเข้า เสื้อดำ ไม่มีการบังคับ เขาก็มามุกใหม่.....
โพสต์จ้วงจาบหยาบช้า ทำเป็นสติฟั่นเฟือน แต่งแดงขึ้นไปนั่งหน้าพระบรมฉายาลักษณ์บ้าง ตะโกนนั่น-พูดนี่บ้าง ล่อให้ประชาชนทนไม่ได้
ก็ไปล้อมจับตัวมาตบสั่งสอนบ้าง ลงมือ-ลงเท้าอบรมบ่มเพาะบ้าง ด่าทอบ้าง แล้วอัดเป็นคลิปออกโซเชียลมีเดีย
คิดทางตรง สะใจ.......
คนแบบนี้ สมควรโดนซะบ้าง!
แต่เมื่อคิดทางซับซ้อน จะเห็นว่า การลงทุนเจ็บ แต่ได้ภาพเหตุการณ์เป็นหลักฐานให้คนส่วนหนึ่งคล้อยตามว่า
ประชาชนไม่มีเสรีภาพ ถูกลัทธิป่าเถื่อนทำร้าย เจ้าหน้าที่รู้เห็น-เป็นใจ ถูกบังคับให้รัก-ให้เคารพ ในสิ่งที่ตัวเขาไม่เคารพ
ก็เข้าทาง สหรัฐ-ยุโรป-ยูเอ็น และพวกสิทธิมนุษยชน เขาละ!
ตอนนี้ จะเห็นการล่าตัวคนโพสต์หมิ่นมาลงทัณฑ์ ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐจัดการตามกฎหมายแทบทุกวันทางสื่อออนไลน์
เข้าใจว่า ถ้ายังปล่อยให้ขบวนการอาศัยช่องทางออนไลน์เป็นแหล่งเผยแพร่ไปเรื่อยๆ
จาก"รักบริสุทธิ์"........
เหตุการณ์ตามคลิปต่างๆ จะทำให้รักบริสุทธ์นั้่น กลายเป็น"รักมีตำหนิ"
เป็นคำถาม"เลยเถิด"ไปถึงขั้น..........
"ให้คุณ-ให้โทษ"ในเส้นทางศรัทธา!
ต้องระวัง และรีบแก้ตรงนี้ด่วน อย่าลืม สังคมส่วนหนึ่งชอบเลียนแบบ ชอบ"คิดตาม-พูดตาม-ทำตาม"มากกว่า"คิด-วินิจฉัย"ด้วยเหตุและผลในเรื่องราวด้วยสติปัญญาตัวเอง
ก็ดูซี...มีคนอาบน้ำกลางถนนให้เห็นคนแรก แถมได้ผล ถนนได้รับการซ่อม แต่นั้นมา
สังคม"อาบน้ำกลางถนน"ถูกเลียนแบบ ระบาดไว้เว้นแต่ละวัน
ดังถึงยูเอ็น!
เมื่อสื่อชอบ ยูเอ็นสนใจ ต่อให้ร้อยนายกฯห้ามว่าอย่าทำ ก็จะทำ...ใครจะทำไม?
"สังคมคิด-สังคมทำ"เป็นลักษณะนี้ เขาจึงเสียบพุ่งเป้าเข้ามา"เขย่าขั้วศรัทธา"ให้ไขว้เขว-เรรวน
เหมือนการตบยุงบนหน้าผาก ......
ยุงก็ต้องตบ ปล่อยให้มันกัด แพร่เชื้ออยู่ได้ไง
แต่เข้าท่ามั้ย ...ถ้าตบให้เลือดติดหน้าตัวเอง?
สุดท้าย(เฉพาะวันนี้)ที่อยากพูดอีกเรื่อง ขบวนการบ่อนทำลายเข้ามาแบบเนียนๆ
ผ่านเรื่่องและภาพ"ยกย่อง-สรรเสริญ"ทำให้พอใจและสนใจติดตาม แต่เมื่อเปิดเข้าไปดู
จะพบคลิป"โจมตี-ใส่ร้าย-จ้วงจาบ"สอดแทรกอยู่เต็มไปหมด!
ก็จากเจ้าประจำ ทั้ง"นอก"และ"ใน"ซึ่งไม่ได้สอดแทรกตอนนี้ เขาโพสต์สอดแทรกเข้ามาประจำ
เพียงแต่ตอนนี้ ใช้สถานการณ์ปัจจุบันเป็นประเด็นคู่ขนาน!
ครับ...ก็คุยให้"รู้เขา-รู้เรา"กันไว้
ตอนนี้ บ้านเมืองกำลัง"รู้รักสามัคคี"ฝ่ายไม่ต้องการให้คนไทยสามัคคี จึงพยายามทุกรูปแบบ
"รักพ่อ"เดินตาม"คำพ่อสอน"ต้องมีสติ มีเมตตา อย่าใช่เถื่อนปราบเถื่อนบางเรื่อง-บางกาละ-เทศะ
"ชั่งหัวมัน"ไว้ก่อน จะเป็นคุณแก่การณ์นะ"
