ทำไมข่าวดาวตลก Lost in Thailand หย่าเมียมีชู้ ถึงมียอดคลิกทะลุทะลวง 5 พันล้านวิว?

เมื่อ 16 ส.ค. บีบีซีรายงานจับกระแสความร้อนแรงของข่าว หวัง เป่าเฉียง ดาราดาวตลกผู้โด่งดังจากภาพยนตร์ Lost in Thailand หนังทำเงินทะลุ 5 พันล้านบาทที่มาถ่ายทำในไทย  ฟ้องร้องหย่าร้างภรรยาด้วยข้อหาคบชู้ กลายเป็นประเด็นข่าวที่มีผู้อ่านและร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์รวมกันมากกว่า 5,000 ล้านวิวแล้ว กลบความสนใจที่มีต่อข่าวมหกรรมโอลิมปิกไปอย่างขาดลอย
loading...
หวัง เป่าเฉียง ป่าวประกาศในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียเว่ยป๋อ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ส.ค. ว่าจะหย่าขาดจากหม่า หรง ภรรยาที่แต่งงานกันเมื่อปี 2552 หลังพบว่าถูกภรรยาสวมเขา แอบคบชู้กับซ่ง เจ๋อ ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเอง จากนั้นวันจันทร์ที่ 15 ส.ค. พระเอกคนดังก็ยื่นคำร้องขอหย่าขาดตามที่ลั่นวาจาไว้ พร้อมกับไล่ซ่ง เจ๋อ จากการเป็นผู้จัดการส่วนตัว

 ด้วยประเด็นคบชู้สู่ชายทำให้เรื่องราวในมุ้งแนวผัวๆ เมียๆ  ดึงดูดการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมอย่างกว้างขวาง หวัง เป่าเฉียง กล่าวโทษภรรยาว่า ทำลายชีวิตครอบครัว และทำให้ชีวิตสมรสต้องปวดร้าว เพราะไปมีสัมพันธ์สวาทกับผู้จัดการส่วนตัว ทั้งยังฮุบสินสมรสที่มีร่วมกันไปด้วย

 ในขณะที่หม่า หรง ตอบโต้ว่า สามีต่างหากที่เป็นฝ่ายละเลยไม่สนใจครอบครัว พร้อมขู่จะฟ้องกลับฐานทำลายชื่อเสียงตน ทั้งยื่นคำขาดให้ฝ่ายชายลบโพสต์ที่กล่าวร้ายตนออก

 หัวข้อที่ไม่รู้ใครผิดใครถูกมากกว่ากันนี้ จึงทำให้ผู้คนพากันถกเถียงกันอย่างออกรสออกชาติกันไปทั่วประเทศ จากข้อมูลของ ไซนา เว่ยป๋อ ระบุว่า โพสต์ที่ติดแฮชแท็กว่า #หวังเป่าเฉียงหย่า ( #WangBaoQiangDivorce) มีผู้อ่านมากกว่า 5,000 ล้านครั้ง เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรจีน 1,000 ล้านคน จึงอนุมานได้ว่าคนหนึ่งๆ คลิกอ่านหัวข้อนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง

 นอกจากนี้ยังมีประเด็นแยกออกไป เช่น #หวังอย่าร้องไห้ #หวังเราให้กำลังใจคุณ ที่สะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ของจีน ขณะที่เว่ยป๋อแสดงสถิติว่า ในการโพสต์โดยรวมนี้ ร้อยละ 47 ประณามฝ่ายหญิงที่คบชู้ ทำลายครอบครัว บางคนถึงกับโพสต์บ้านเลขที่ของดาราสาวเพื่อชี้ทางให้คนไปรุมด่าว่า

 "หวังเป็นผู้ชายที่มุ่งมั่นทำงานหนัก  ตั้งแต่มาจากชนบท หล่อนนอกใจคนที่ซื่อสัตย์ได้อย่างไร ฉันเกลียดคนแบบนี้ที่สุด" เป็นข้อความของผู้ใช้เครือข่ายเว่ยป๋อรายหนึ่งเขียนความเห็นไว้

 
 สำหรับการยื่นเรื่องฟ้องหย่าครั้งนี้ ดาวตลกหวังขอรับสิทธิเลี้ยงดูลูกทั้งสอง โดยให้ภรรยาร่วมจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก จนกว่าลูกๆ จะอายุ 18 ปี
 หวัง เป่าเฉียง อายุ 32 ปี เป็นดาราที่ชาวจีนต่างรู้จักและนิยมชมชอบ เกิดในหมู่บ้านที่มณฑลเหอเป่ย เริ่มเรียนกังฟูที่วัดเส้าหลิน ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยไม่ได้เรียนหนังสือ ไต่เต้าเข้าวงการบันเทิงจากบทเล็กๆ ในภาพยนตร์และละครทีวีในปักกิ่ง บทที่ได้รับมักเป็นคนซื่อ จริงใจ อ่อนต่อโลก และให้กำลังใจ แต่เป็นตัวประกอบที่ไม่มีชื่อเสียง

 จนกระทั่งถึงเรื่อง  A World Without Thieves หนังปี 2547 จึงเริ่มเป็นที่เตะตาผู้ชม ก่อนจะโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ  โดยเฉพาะในเรื่อง Lost in Thailand หนังที่ทำสถิติกวาดเงินสูงสุดในจีนเมื่อปี 2555 และทำให้ชาวจีนแห่มาเที่ยวไทย โดยเฉพาะที่ภาคเหนืออย่างไม่ขาดสาย

ส่วนหม่า หรง ไม่มีชื่อเสียงอะไร นอกจากเป็นที่รู้จักว่าเป็นภรรยาของหวัง เป่าเฉียง ที่ออกงานด้วยเท่านั้น หลายคนเพิ่งมารู้จักตอนที่เกิดข่าวนี้

บีบีซีรายงานเชิงวิเคราะห์ว่า การหย่าร้างของเหล่าคนดังอื่นๆ ในจีนไม่เคยได้รับความสนใจเท่าครั้งนี้  เพราะกรณีของคู่นี้ไปตรงกับความเชื่อของผู้คนที่ว่า ผู้หญิงสวยๆ มักจะยอมแต่งงานกับหนุ่มที่รวยแม้จะหน้าตาไม่ดี

 เช่น ในสุดยอดนิยายจีนเรื่อง 108 ผู้กล้าแห่งเขาเหลียงซาน (ซ้องกั๋ง) มีตัวละครชื่อ พานจินเหลียน สาวสวยที่เกิดในครอบครัวยากไร้ ได้ชื่อว่าเป็นนางแพศยาแห่งวัฒนธรรมจีน  เพราะหลังจากแต่งงานกับอู๋ต้า ชายเตี้ยค่อมหน้าตาขี้เหร่แต่ขยันทำงานและเอาใจทะนุถนอมภรรยา แต่นางกลับคบชู้และฆ่าสามีในที่สุด

 ผศ.ดร.มู่ เจิ้ง แห่งคณะสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่า  กรณีที่ชีวิตสมรสของดาวตลกหวังและสาวหม่าไปไม่รอดนั้นไปตรงกับความเชื่อว่าทั้งคู่ไม่เหมาะกันตั้งแต่แรก

 
 "ถ้าเราดูเรื่องนี้แล้ว อาจจะคล้ายกับเรื่องราวทั่วไปของหญิงสาวที่แต่งงานกับชายที่มีชื่อเสียงและร่ำรวย ตรงกับความจริงทั่วไป แต่ถ้าเรามองเข้าไปใกล้กว่านั้น ฝ่ายชายมาจากครอบครัวชนบท เขาไม่ได้มีการศึกษาสูง และรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้หล่อเหลา ดังนั้นสำหรับภรรยาคนนี้แล้ว จึงเป็นเหมือนความฝันของเขาเลยทีเดียว" ดร.มู่วิเคราะห์

 ในขณะที่ข้อถกเถียงหลักของเรื่องนี้ในโซเชียลมีเดีย ก็คือเรื่องหย่าร้าง และมีวิธีอะไรหรือไม่ที่จะช่วยผู้คนทั่วไปปกป้องตนเองได้ กรณีของหวัง เป่าเฉียง กล่าวหาภรรยาว่าแอบฉกฉวยสมบัติไป ในที่นี้รวมถึงแฟลต 9 หลัง รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และสินค้าหรูหราอีกมากมายหลายชิ้น ดังนั้นผู้คนจึงถกเถียงกันว่าทำอย่างไรจะปกป้องสมบัติของตนเองได้ แม้จะแต่งงานไปแล้ว


 ทัศนคติการหย่าร้างในจีนนั้นเปลี่ยนแปลงเร็วมากในจีน และสถิติการหย่าร้างก็เพิ่มขึ้นด้วย จากรายงานของโกลเบิลไทมส์ ระบุว่า ในปี 2558 มีคู่หย่าร้างสูงถึง 3.84 ล้านคู่ เพิ่มมากกว่าปี 2557 ถึงร้อยละ 5.6

 "ผู้คนมีความคิดยอมรับเรื่องการหย่าร้างมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มชาวจีนที่มีการศึกษามากขึ้น เปิดใจกว้างขึ้นทั้งในเรื่องแต่งงานและหย่าร้าง อย่างไรก็ตามยังมีบางเรื่องที่ยึดติดอยู่กับความเชื่อเดิม เช่น สามีต้องเป็นใหญ่ในบ้าน และภรรยาต้องดูแลการบ้านการเรือน เป็นต้น" ดร.มู่กล่าว
ทีมา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1471367542
Powered by Blogger.