ไขข้อข้องใจ?? ฝี กับ สิว ต่างกันอย่างไร? พร้อมวิธีรักษาฝีเบื้องต้น..

    สืบเนื้องมาจากกรณีของคุณ  "กวาง กมลชนก"  ที่ได้ถ่ายภาพและโพสต์ว่า มีตุ่มเม็ดเล็กๆขึ้นตรงหน้า และคิดว่าเป็นสิว แต่มีอาการปวดมาก พอไปพบหมอกลับพบว่าตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ที่ขึ้นนั้นคือ "ฝี" ไม่ใช่ "สิว" จึงต้องรักษาด้วยการขูดเอาหนองออกจนใบหน้าเกิดเป็นรูโบ๋หวดเสียโฉมกันเลยทีเดียว วันนี้เลยมีความรูู้เรื่องความแตกต่างระหว่าง สิว กับ ฝี พร้อมวิธีรักษา ฝี เบื้งต้นมาฝากกันค่ะ
    ฝี เป็นการอักเสบและติดเชื้อของผิวหนัง มักมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียหรือปรสิต ที่มีการรวมตัวของหนองเป็นก้อนลักษณะบวมแดง เจ็บ ปวด และมีการอักเสบรอบๆ เป็นที่บริเวณไหนของร่างกายก็ได้  ซึ่งตุ่มจะโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อหนองแตกหรือเอาหนองออกแล้วอาการเจ็บปวดถึงจะทุเลาลง
  สิว เป็นการอุดตันของต่อมไขมันที่อยู่ตามเส้นขนและมีการอักเสบ ถ้าเป็นมากจะมีแบคทีเรียทำให้เห็นการอักเสบเป็นตุ่มแดงตุ่มหนอง หรือเป็นถุงน้ำ cyst ถ้า cyst. อักเสบมากๆมีอาการเจ็บคล้ายฝีได้. แต่จะเป็นที่ตำแหน่งที่มีต่อมไขมันเยอะเช่นใบหน้าหน้าอกหลัง และเชื้อที่ทำให้เกิดการอักเสบเป็นคนละตัวกัน

สิว และ ฝี ต่างกันอย่างไร ?
    แม้ว่าสิวและฝีจะมีลักษณะที่คล้ายกันก็จริงอยู่ แต่ถ้าสังเกตให้ดี ฝีจะมีลักษณะของตุ่มที่ใหญ่กว่าสิว โดยทั่วไปแล้วฝีมักจะมีขนาดเท่าเม็ดถั่วไปจนถึงลูกกอล์ฟ และจะมีอาการปวดระบมมากกว่า ทั้งนี้ถ้าเป็นสิวจะสามารถหายได้เองและใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเป็นฝีอาการบวมแดงจะเกิดขึ้นหลายวัน รวมถึงอาการเจ็บบวมก็จะไม่ลดลงจนกว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ซึ่งฝีนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำตัว แขน ขา ใต้รักแร้ หรือก้น ส่วนสิวจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันเท่านั้น อย่างเช่น ใบหน้า ศีรษะ หน้าอก และแผ่นหลัง เป็นต้น ทั้งนี้ถ้าหากสิวมีการอักเสบมาก ๆ ก็อาจจะพัฒนากลายเป็นฝีได้เช่นเดียวกัน

วิธีการรักษาฝี
    สำหรับสิวคือ เชื้อโพรพิโอนิแบคทีเรียมเอคเนดังนั้นยาที่ใช้จึงไม่เหมือนกัน การรักษาถ้าเป็นฝีเริ่มต้นใช้ยาทาฆ่าเชื้อโรคและรับประทาน แต่ถ้าเป็นฝีใหญ่ ก็ต้องเจาะเอาหนองออกเพราะยารับประทานจะเข้าไม่ถึงบริเวณที่เป็นหนอง และต้องทานยาแก้อักเสบด้วย แต่ถ้าเป็นฝีแล้วมีไข้ ด้วยแสดงว่าเชื้อกระจายเข้ากระแสเลือดอาจต้องให้เป็นยาปฎิชีวนะแบบฉีดคะ

     ทีนี้ก็แยกออกแล้วใช่ไหมค่ะ ระหว่างสิว กับฝี ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าหากไม่แน่ใจแล้วละก็ อย่าบีบิวหรือฝีเอง ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างถูกต้องจะดีที่สุด

โดย : kaijeaw.com
Powered by Blogger.