


สิว และ ฝี ต่างกันอย่างไร ?
แม้ว่าสิวและฝีจะมีลักษณะที่คล้ายกันก็จริงอยู่ แต่ถ้าสังเกตให้ดี ฝีจะมีลักษณะของตุ่มที่ใหญ่กว่าสิว โดยทั่วไปแล้วฝีมักจะมีขนาดเท่าเม็ดถั่วไปจนถึงลูกกอล์ฟ และจะมีอาการปวดระบมมากกว่า ทั้งนี้ถ้าเป็นสิวจะสามารถหายได้เองและใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเป็นฝีอาการบวมแดงจะเกิดขึ้นหลายวัน รวมถึงอาการเจ็บบวมก็จะไม่ลดลงจนกว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกวิธี ซึ่งฝีนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ลำตัว แขน ขา ใต้รักแร้ หรือก้น ส่วนสิวจะเกิดขึ้นบริเวณที่มีต่อมไขมันเท่านั้น อย่างเช่น ใบหน้า ศีรษะ หน้าอก และแผ่นหลัง เป็นต้น ทั้งนี้ถ้าหากสิวมีการอักเสบมาก ๆ ก็อาจจะพัฒนากลายเป็นฝีได้เช่นเดียวกัน
วิธีการรักษาฝี
สำหรับสิวคือ เชื้อโพรพิโอนิแบคทีเรียมเอคเนดังนั้นยาที่ใช้จึงไม่เหมือนกัน การรักษาถ้าเป็นฝีเริ่มต้นใช้ยาทาฆ่าเชื้อโรคและรับประทาน แต่ถ้าเป็นฝีใหญ่ ก็ต้องเจาะเอาหนองออกเพราะยารับประทานจะเข้าไม่ถึงบริเวณที่เป็นหนอง และต้องทานยาแก้อักเสบด้วย แต่ถ้าเป็นฝีแล้วมีไข้ ด้วยแสดงว่าเชื้อกระจายเข้ากระแสเลือดอาจต้องให้เป็นยาปฎิชีวนะแบบฉีดคะ
ทีนี้ก็แยกออกแล้วใช่ไหมค่ะ ระหว่างสิว กับฝี ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร แต่ถ้าหากไม่แน่ใจแล้วละก็ อย่าบีบิวหรือฝีเอง ควรรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างถูกต้องจะดีที่สุด
โดย : kaijeaw.com