จากกรณีมีเฟสบุ๊คชื่อ Nipa Aum โพสต์ภาพเด็กวัย 3 ขวบมีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณต้นแขนซ้าย จนมีชาวเฟสบุ๊คเข้าไปถามถึงสาเหตุ ก่อนจะมีการเข้าแจ้งความเอาผิดกรณีดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ทางผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังเฟสบุ๊คดังกล่าวจนพบและทราบชื่อเจ้าของเฟสบุ๊ค นางสาวนิภา บุญชู อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 451/219 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงทราบสาเหตุว่าเรื่องดักล่าวเกิดจากโดนครูโรงเรียนอักษรพัทยา ซ.ก่อไผ่ เมืองพัทยา กระทำจนเป็นรอยเขียวซ้ำ แต่เมื่อผู้ปกครองเข้าไปสอบถามกลับถูกปฏิเสธไม่รู้สาเหตุ ก่อนครูที่ดูแลลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ไม่บอกถึงสาเหตุที่น้องมีรอยเขียวช้ำ
โดยนางสาวนิภา บุญชู อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ปกครองของ ด.ญ.กชพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 3 ขวบ เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเย็นวันที่ 1 พ.ย.59 ตนเองได้ให้ญาติไปรับด.ญ.กชพรรณกลับจากโรงเรียนอักษรพัทยา ซ.ก่อไผ่ ซึ่งได้พบว่าบริเวณต้นแขนซ้ายมีอาการเขียวช้ำ ตนก็โทรศัพท์ไปถามครูที่โรงเรียนว่าน้องเป็นอะไรจึงมีรอยเขียวช้ำที่ต้นแขน ซึ่งตอนแรกตนเองแค่คิดว่าเด็กคงเล่นกับเพื่อนแล้วล้มลงกับพื้นตนเลยโทรศัพท์ไปสอบถาม แต่กับได้รับคำตอบว่าไม่รู้ละครูอ้างเพียงว่าคงเล่นกับเพื่อนแล้วล้ม ตนจึงพยายามไปติดต่อขอดูภาพกล้องวงจรปิดแต่ได้รับการปฏิเสธ
ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศรีชำนาญ สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองพัทยา เพื่อต้องการทราบสาเหตุและต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิด โดยทาง พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ได้ดูรอยเขียวช้ำแล้ว สันนิฐานเบื้องต้นจากรอยบาดแผลน่าจะเกิดจากการถูกตี และพยายามพูดคุยกับ ด.ญ.กชพรรณ ถึงสาเหตุของรอยเขียวช้ำ ทาง ด.ญ.กชพรรณ ได้ตอบกับพ.ต.ท.กิตติพงศ์ ว่าถูก "ครูปูตี" ซึ่งในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจถามว่าจะให้ลงบันทึกตามคำบอกเล่าของ ด.ญ.กชพรรณ หรือไม่ ตนเองบอกยังก่อนเพราะอยากดูภาพจากกล้องวงจรปิดเสียก่อน ถ้าพบว่าเป็นจริงก็จะกลับมาแจ้งความเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดี
จากนั้นตนเองก็ได้พา ด.ญ.กชพรรณ ไปโรงเรียนเหมือนเคย แต่น้องกลับแสดงอาการหวาดกลัวไม่ยอมไปโรงเรียน และได้พบกับ นางสาวนัยนา ปาลพันธุ์ หรือครูปู หัวหน้าครูชั้นเตรียมอนุบาล ซึ่งได้แสดงอาการไม่เหมาะสมกับวิชาชีพของครู โดยบ่นว่าจะมาทำไม มาเป็นภาระให้กับคนอื่น นอกจากนั้นพอทางโรงเรียนทราบว่าทางตนเข้าแจ้งความก็ยอมให้ดูภาพวงจรปิด แต่ในภาพเหมือนมีการตัดบางช่วงออกไป และไม่ตรงกับคำบอกเล่าของครูคนอื่น แต่ตนเองไม่สามารถเปิดเผยได้ จนกระทั่งตนพยายามเข้าไปติดต่อสอบถามที่โรงเรียนหลายครั้งหลัง และตนเองได้ย้ายด.ญ.กชพรรณไปเรียนที่อื่น เพื่อให้ด.ญ.กชพรรณมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และทราบว่านางสาวนัยนา ปาลพันธุ์ หรือครูปู ได้ลาออกจากโรงเรียนและยอมรับว่าเป็นคนทำน้อง แต่เป็นเพียงแค่ดึงตุ๊กตาหมีเก่าๆที่น้องติดเท่านั้น นอกจากนั้นพฤติกรรมที่น้องเปลี่ยนไปอีกอย่างคือไม่ยอมเข้าห้องน้ำในการอาบน้ำ หรือภารกิจอย่างอื่นๆ จะอาบน้ำบริเวณหน้าบ้านตนจึงเป็นห่วง หากโตเป็นสาว แต่พอมาทราบสาเหตุจึงทราบว่า ด.ญ.กชพรรณถูกนางสาวพิมพ์ประภา ทองจันทร์ ซึ่งเป็นครูชั้นเตรียมอนุบาลจับน้องเข้าไปขังในห้องน้ำเพราะน้องร้องไห้ไม่หยุด
ซึ่งจากการที่ตนเองเข้าแจ้งความนั้นเพื่อต้องการทราบเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ ด.ญ.กชพรรณ ว่าเป็นอย่างไร และบาดแผลเกิดจากอะไร ซึ่งน้องนั้นมีปัญหาตั้งแต่ตอนเกิด เพราะก่อนกำหนดขณะมารดาตั้งท้อง 7 เดือน การพัฒนาก็ช้าว่าเด็กคนอื่น และยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ตนเองจึงยอมไม่ได้ และการเข้าเป็นครูนั้นต้องมีจรรยาบรรณของการเป็นครูไม่ใช้พูดจาไม่ดีแสดงกริยาไม่ดี
ด้าน พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศรีชำนาญ สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองพัทยา ได้นัด นางสาวนิภา บุญชู และ ด.ญ.กชพรรณ เข้าให้รายละเอียดปากคำอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.59 ที่สภ.เมืองพัทยาอีกครั้ง
ภาพ / ข่าว : อัมพร แสงแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา
http://www.77jowo.com/contents/2779/