ขนลุกซู่!! หนุ่มเดินป่าเจอ “พระธุดงค์” เข้าไปกราบถึงกับน้ำตาไหล เมื่อเห็นสิ่งที่มากับท่าน !?

ท่านเอื้อมมือลูบศีรษะเราพร้อมทั้งให้ศีลให้พร จากนั้นท่านก็เดินจากไป เพียงแค่เราก้มหน้าใส่รองเท้าไม่ถึงห้าวินาที พอเงยหน้าขึ้นมา…อ้าว…ท่านละลายหายไปไหนแล้วเหลือแต่กลิ่นหอมฟุ้งหอมตลบอบอวลไปทั่วแนวป่า.

สมัยที่ยังชอบท่องเที่ยวหาความสงบวิเวก อยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพร

ได้พบหลวงปู่ผู้เฒ่าอายุเกือบจะ 90 ปี แต่ยังแข็งแรงปราดเปรียวเกินวัย

ท่านว่า ท่านเป็นชาวไทยใหญ่ แต่พูดภาษาคนเมืองได้ชัดเจนดี

ท่านธุดงค์มาจากเมืองตองยี ประเทศพม่า

ท่านปักกลดอยู่ใต้ต้นตะเคียนยักษ์ริมลำห้วยเล็กๆ สายหนึ่งกลางป่าลึก

หลวงปู่ผู้เฒ่าองค์นี้ ท่านมีพลังจิตแก่กล้าเหลือคณานับ

ดูเหมือนจะไม่เคยพบเคยเห็นท่านองค์ใดเหมือนหลวงปู่ไทยใหญ่องค์นี้มาก่อนเลยดวงตาของท่านคมกล้า แฝงพลังลึกลับอัศจรรย์ยิ่ง

ไม่ว่าท่านจะหันไปจ้องมองดูอะไรรอบๆข้างสิ่งเหล่านั้นจะหยุดสงบนิ่งทันที

นกที่กำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้งอยู่บนคาคบไม้

ยามเมื่อท่านแหงนหน้าจ้องมองดูก็จะหยุดร้องเกาะสงบนิ่งทันที

ใบไม้ กิ่งไม้ ที่กำลังแกว่งไกวอยู่ก็จะหยุดเคลื่อนไหว

แม้แต่กระรอกป่าหนุ่มสาวคู่หนึ่ง

กำลังวิ่งหยอกล้อกันมาเสียงโครมครามบนกิ่งมะค่า

เพียงท่านแหงนหน้ามองดู

เจ้ากระรอกน้อยคู่นั้น เหมือนมีอำนาจอะไรสักอย่างหยุดตรึงให้อยู่กับที่

 ในกิริยาที่กำลังก้าววิ่ง
ตราบกระทั่งท่านเปลี่ยนสายตาหันไปมองสิ่งอื่น

เมื่อนั้นแหละ เจ้ากระรอกคู่นั้นก็จะเข้าสู่อาการเดิม คือ

เคลื่อนไหวได้ พร้อมทั้งกระโดดเผ่นหนีด้วยความตกใจอย่างไม่คิดชีวิต

หรือแม้กระทั่งน้ำในลำห้วย ที่ไหลรินๆ อยู่ขอดก้นห้วย

ในตอนเย็น ยามเมื่อท่านจะลงไปสรงน้ำ

เห็นท่านยืนมองๆ น้ำอยู่ ชั่วครู่น้ำก็จะหยุดไหล

เหมือนมีทำนบมากั้นไว้ ทำให้น้ำเออขึ้นมาเกือบครึ่งลำห้วย

สะดวกที่จะลงสรงสนานได้อย่างดียิ่ง

เรามีวาสนาได้อุปฐากรับใช้สรงน้ำถวายท่าน

ส่วนในด้านปรจิต ท่านก็แสนจะว่องไวเหลือเกิน.

ไม่ว่าท่านจะหลับหรือตื่น ดูท่านจะรู้อะไรๆ ไปซะหมดทุกอย่าง

ไม่ว่าเราจะคิดนึกอะไร ถ้ากระเด็นออกนอกลู่นอกทาง

ไม่ใช่อรรถไม่ใช่ธรรม ท่านจะสกัดทันที ไม่พูดดุตรงๆ

ก็ใช้สายตาคมกล้าจ้องมองหน้าเรา

ต้องสงบราบคาบหมอบนิ่งอยู่ใต้ฝ่าเท้าท่านทันที

เหมือนสมัยอยู่กับหลวงปู่ดุลย์ยังไงยังงั้นทีเดียว!

ท่านถามข้ออรรถข้อธรรมของเรา

ก็กราบเรียนท่านไปในภาวะแห่งมรรคจิตที่เรากำลังดำเนินการขับเคี่ยวอยู่ ท่านนั่งฟังด้วยความตั้งใจ แล้วหลับตาพิจารณาครู่หนึ่ง

ลืมตาจ้องมองดูเราจนต้องหลบตาท่าน

เพราะแววตาท่านแข็งกล้าแน่วแน่

จนในขณะนั้นเหมือนเราแทบจะละลาย

เป็นธุลีลงต่อหน้าต่อตาท่านเลยทีเดียว

ท่านยิ้มด้วยเมตตา

กล่าวอนุโมทนากับสภาพธรรมที่เรากำลังโรมรันอยู่

ท่านเอ่ยปากชมเรา ที่เอาตัวรอดออกมาจากกับดัก หรือไม้ตายของกิเลส

เพราะสภาวะ รู้ อันเป็นธรรมชาติของจิตนั้น ละเอียดอย่างยิ่ง

ส่วนมากมักจะไปติดอยู่กับ รู้ ที่เป็นกับดักของกิเลส

แล้วที่สุดก็จะกลายเป็น หลงรู้ ไป

ท่านเมตตาพยากรณ์ในวิถีแห่งธรรมะที่เรากำลังปฏิบัติอยู่หลายอย่าง

แล้วมันก็จริงอย่างท่านพูดทุกอย่างที่เรากำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้

เรามีวาสนาอยู่อุปฐากรับใช้ท่าน 1 คืน กับ 1 วันเต็มๆ

พอใกล้ค่ำขอเย็นวันนั้น ท่านก็จากไปตอนใกล้พลบค่ำ

ท่านบอกว่าชอบเดินธุดงค์ตอนกลางคืน ท่านว่าเงียบสงบดี

เออ เอากะท่านซิ. เราทิ้งบริขารมาส่งท่านที่ริมฝั่งลำห้วย

ท่านรับบริขารจากเราไป เราก็ก้มลงกราบแทบเท้าท่าน

ท่านเอื้อมมือลูบศีรษะเราพร้อมทั้งให้ศีลให้พร

จากนั้นท่านก็เดินจากไป เพียงแค่เราก้มหน้าใส่รองเท้าไม่ถึงห้าวินาที

พอเงยหน้าขึ้นมา…อ้าวท่านละลายหายไปไหนแล้ว

เหลือแต่กลิ่นหอมฟุ้งหอมตลบอบอวลไปทั่วแนวป่า.

เราเองก็ไม่ได้ฝังจิตฝังใจกับเรื่องจุกๆจิกๆ

ที่นอกเหตุเหนือผลเหล่านี้เท่าไหรนัก

แต่ชอบใจโอวาทของท่านที่เมตตาเตือนเรา

ซึ่งเราก็น้อมรับด้วยความเคารพ

แล้วก็จำฝังจิตฝังใจมาจนทุกวันนี้ มิรู้ลืม

ท่านเมตตาสอนเราว่า…

…เป็นพระกรรมฐาน เดินป่าออกหาวิโมกธรรม

จงอย่าได้ถือว่ามีอะไรเป็นอุปสรรค

เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ก็ไม่เป็นอุปสรรค

อดอยากหิวโหย ก็ไม่เป็นอุปสรรค

แม้กำลังป่วยไข้อาพาธหนักใกล้จะตาย ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคทั้งนั้น

ให้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

โลกนี้ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคของผู้ปฏิบัติธรรม

เหตุเพราะเราปฏิบัติธรรมเพื่อให้เบื่อหน่ายคลายจากความกำหนัดจากตัณหามิใช่หรือ?

เพื่อความดับทุกข์ เพื่อให้พ้นไปจากทุกข์มิใช่หรือ?

เมื่อเรามีปนิธานแล้วตั้งจิตอย่างแน่วแน่เด็ดขาดลงไปว่า

เราเข้ามาปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์อย่างเดียวเท่านั้น

แล้วจะไปแยแสอะไรกับอุปสรรคทั้งหลายแหล่

จิตของเราก็มีแต่ความอิ่มเอิบในธรรม จิตจะสว่าง สะอาด สงบสันติ

แม้ถูกเสือกิน เราก็ยังยิ้มได้ เจริญวิปัสสนาในปากเสือได้

จิตมั่นคงไม่หวาดหวั่นต่อภัยใดๆ ทั้งสิ้น แม้ที่สุดคือความตาย…”

นี่เป็นโอวาทของพระธุดงค์เฒ่า

หลวงปู่ไทยใหญ่องค์นั้น ที่เราได้พบท่านในกลางดงลึก

แม้เหตุกาณ์ผ่านมาหลายปีแล้ว

แต่เรายังฝังใจในโอวาทของผู้เฒ่าท่านนั้นมิรู้ลืม…

(แม้ไม่ได้พบเจอ ได้ฟังโอวาทอันทรงคุณค่า ที่เล่าต่อกันมา ก็ซาบซึ้งเข้าไปในดวงจิต  คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากใครได้ปฏิบัติจริงแล้ว ย่อมได้ผลของการปฏิบัติที่เป็นสัจธรรม ย่อมได้รับความสุขนิรันดร์  ขอกราบแทบเท้าพระมหาเถระผู้ทรงอภิญญากลางป่าลึกองค์นั้น)
Powered by Blogger.